ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข กำชับโรงพยาบาลใน 32 จังหวัดเสี่ยงพายุฤดูร้อน เตรียมแผนรับมือ 3 ด้านได้แก่ 1.ป้องกันอาคารสถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ สำรวจความแข็งแรงของตัวอาคาร หลังคา ป้ายประกาศ ไฟส่องสว่าง ตัดแต่งต้นไม้ รื้อถอนป้าย สิ่งก่อสร้างที่เป็นอันตราย พร้อมซ่อมแซมให้มีความปลอดภัย 2.สำรองทรัพยากรต่างๆที่มีความจำเป็นต่อการจัดบริการประชาชน เช่น ยา-เวชภัณฑ์ ระบบสำรองไฟ น้ำมัน ออกซิเจน 3.แผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ ฉบับที่ 9 ระบุ วันที่ 29-30 เมษายน 2559 นี้ พื้นที่ 32 จังหวัด ในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออก และกลาง จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางแห่ง มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมแผนรับมือ 3 ด้าน ดังนี้

1.เตรียมพร้อมป้องกันอาคาร สถานที่ อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ โดยสำรวจความแข็งแรงของตัวอาคาร หลังคา ป้ายประกาศ ไฟส่องสว่าง ตัดแต่งต้นไม้ รื้อถอนป้าย สิ่งก่อสร้างที่เป็นอันตราย พร้อมซ่อมแซมให้มีความปลอดภัย ตรวจสอบระบบระบายน้ำ ทำความสะอาดรางน้ำฝน ท่อระบายน้ำไม่ให้อุดตัน พร้อมเตรียมสถานที่ปลอดภัยสำหรับขนย้ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ

2.เตรียมสำรองทรัพยากรต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อการจัดบริการประชาชนให้เพียงพอ เช่น ยา-เวชภัณฑ์ ระบบสำรองไฟ สำรองน้ำมัน ออกซิเจน เป็นต้น

3. เตรียมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยประสานโรงพยาบาลข้างเคียง รถสำหรับขนย้าย กรณี อาคารบริการหรือสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายจนไม่สามารถให้บริการได้ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงเข้าใกล้สิ่งก่อสร้างที่อาจเป็นอันตรายขณะเกิดพายุลมแรง เช่น ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และหากบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรแจ้งขอความช่วยเหลือด้านการแพทย์ได้ที่หมายเลข 1669  

ทั้งนี้ พายุฤดูร้อนครั้งนี้ มีผลกระทบที่จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ยโสธร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด