ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอประทีป” แถลงข่าวเปิดใจ ฟ้องศาลปกครองเพิกถอน มติบอร์ด สปสช.ไม่รับรองตำแหน่งเลขาธิการ สปสช. ชี้เป็นคำสั่งปกครองไม่ชอบ จงใจทำผิดกฎหมาย มุ่งหวังปรับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ยืนยันจะยังคงเดินหน้าทำงานผลักดันระบบเพื่อประชาชนต่อไป ขณะที่ ผู้บริหาร/จนท.สปสช. เครือข่ายผู้ป่วย เครือข่ายภาคประชาชน มอบดอกไม้ร่วมให้กำลังใจ พร้อมเตรียมยื่นหนังสือ กพร.ขอความเป็นธรรมนายกฯ ให้หมอประทีป 14 ก.ค.นี้      

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 เวลา 10.00 น. นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้แถลงข่าวเปิดใจต่อกรณีการสรรหาเลขาธิการ สปสช.ที่ผ่านมา ในฐานะผู้ผ่านการสรรหาที่เหลือเพียงคนเดียวและถูกนำเสนอชื่อต่อบอร์ด สปสช.เพื่อรับรอง เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบอร์ด สปสช.มีมติไม่รับรอง ซึ่ง นพ.ประทีป ได้ประกาศสานต่องานของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ และฝากงานถึงเจ้าหน้าที่ สปสช. โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สปสช.ทั้งส่วนกลางและเขต นายปิ่น นันทะเสน นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข รวมทั้งเครือข่ายผู้ป่วยและเครือข่ายประชาชน กว่า 80 คน ร่วมมอบดอกไม้และให้กำลังใจ อาทิ เครือข่ายผู้ป่วย 17 เครือข่าย (Healthy forum) เครือข่ายเพื่อนช่วยเพื่อน เครือข่ายเรียนรู้วิถีธรรมชาติ THAI CANCER SOCIETY และผู้แทนศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เป็นต้น

นพ.ประทีป กล่าวว่า ที่มาของการตัดสินใจแถลงข่าวในวันนี้ เนื่องจากตลอดช่วงนับตั้งแต่ 4 เม.ย. - 4 ก.ค. 59 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการรับสมัครเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ การเข้าให้ข้อมูลคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตีความคุณสมบัติผู้สมัคร กระบวนการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อรับการสรรหา และการเข้าสู่การพิจารณาทำสัญญาจ้างเพื่อแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ของตน สังคมได้รับรู้ถึงความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางระบบหลักประกันสุขภาพ โดยใช้โอกาสของการคัดเลือกเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ครั้งนี้ ของกลุ่มคนที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ และกลุ่มคนที่แทรกซึมอยู่ในกลไกกำหนดนโยบายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ     

จากกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้ นพ.เทอดชัย ชีวเกต หมอรางวัลแมกไซไซ ได้สรุปในไลน์ที่เปิดเผยทั่วไปว่า เป็นกระบวนการที่มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอย่างเป็นระบบ ขาดจิตใจที่โปร่งใส รวมทั้งที่นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ ได้ให้ความเห็นกับสังคมว่าเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจที่ฉลาด แต่ไม่ยึดหลักการ หลักเกณฑ์ และทำผิดกฎหมายหลักประกันสุขภาพ มาตรา 31 ทั้งนี้จากความไม่ชอบธรรมและขาดหลักธรรมาภิบาลในกระบวนการคัดเลือกเลขาธิการ สปสช.ครั้งนี้ จึงตัดสินใจดำเนินการดังนี้

1.จะมุ่งมั่นดำเนินการสานต่อปณิธานและงานที่ยังไม่เสร็จของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ที่จะสร้างระบบหลักประกันสุขภาพให้กับประชาชนต่อไป

2.จะขออาศัยบารมีของศาลยุติธรรม ด้วยการรักษาสิทธิของการเป็นผู้ได้รับการสรรหาเป็นเลขาธิการ สปสช.เพียงคนเดียว ฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนมติบอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการออกคำสั่งปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหลักประกันสุขภาพแพ่งชาติ พ.ศ. 2545 มาตรา 31 รวมทั้งกระบวนการประชุมลงมตินับคะแนนของบอร์ด สปสช.ดังกล่าว เป็นกระบวนการที่จงใจทำผิดกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติและเมื่อถึงเวลาเหมาะสมจะขอพึ่งบารมีศาลอาญาต่อไป

3.จะร่วมมือกับประชาชนและภาคีทุกเครือข่ายที่รักความเป็นธรรม ดำเนินการปกป้องระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และผลักดันการปฏิรูประบบสาธารณสุข รวมทั้งการปฏิรูปองค์กรวิชาชีพ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวม

4.ขอให้เจ้าหน้าที่ สปสช.ทุกคนดำเนินการแนวแน่เพื่อสร้างระบบหลักประกันสุขภาพที่ดีที่สุดให้กับประชาชน สานต่องานของ นพ.สงวน นิติยารัมภ์พงศ์ มุ่งมั่นทำงานและบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอย่างมืออาชีพ ไม่หวั่นไหวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง พร้อมกันนี้ขอให้สนับสนุนการบริหารงานของรักษาการแทนเลขาธิการ และคณะผู้บริหาร สปสช.อย่างเต็มกำลัง   

นพ.ประทีป กล่าวว่า สุดท้ายนี้เชื่อมั่นว่าไม่ว่าใครเป็นเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่พวกเราและภาคีเครือข่ายได้ช่วยกันพัฒนาภายใต้การสนับสนุนของทุกรัฐบาล จะต้องเดินหน้าต่อไป ไม่มีผู้มีอำนาจหรือกลุ่มผลประโยชน์แอบแฝงใดจะทำลายหลักการที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศได้

นางจุฬา สุดบรรทัด

ด้าน นางจุฬา สุดบรรทัด นักพัฒนาเอกชนอิสระ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายพลเมืองรักษ์คนดี กล่าวว่า จากกรณีของ นพ.ประทีป จึงมีการรวมตัวของประชาชนและจัดตั้งเป็นเครือข่ายพลเมืองรักษ์คนดี โดยมีเจตนารมณ์เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนคนดี รวมทั้งยกย่องเชิดชูเกียรติ ซึ่งกรณีของ นพ.ประทีป เครือข่ายพลเมืองรักษ์คนดีขอชื่นชมการอุทิศตนเพื่อรักษาและพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  

จากการผลักดันระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กลุ่มเครือข่ายพลเมืองรักษ์คนดีได้ประจักษ์ในผลสำเร็จของโครงการนี้จากความทุ่มเทของ นพ.สงวน ซึ่งเป็นเลขาธิการฯ คนแรก และมี นพ.วินัย สวัสดิวร และ นพ.ประทีป เป็นรองเลขาธิการฯ โดย นพ.วินัย ได้ทำหน้าที่เลขาธิการฯ ต่อมา

ทั้งนี้เมื่อ นพ.ประทีป เข้าสู่กระบวนการสรรหาเลขาธิการ สปสช. ในกระบวนการสุดท้ายของการสรรหาเลขาธิการ สปสช. บอร์ด สปสช.กลับไม่รับรอง นพ.ประทีป ดำรงตำแหน่งนี้ แม้ว่าจะได้ร่วมสร้างผลงาน สปสช.มากมาย โดยมีเสียงไม่รับรองมากกว่าการรับรองเพียง 1 คะแนนเสียง ดังนั้นจึงขอเป็นพลังใจและขอให้ท่านได้รับความเป็นธรรมต่อไป

นายชัยวัฒน์ ดลยวัฒนา ตัวแทนชมรมรักษ์ สปสช. กล่าวว่า ชมรมรักษ์ สปสช. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ สปสช.ขอให้กำลังใจ นพ.ประทีป ต่อสู้เพื่อความถูกต้องต่อไป โดยในส่วนของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เราจะขอทำงานแบบมืออาชีพในการพัฒนาระบบเพื่อดูแลประชาชนบนพื้นฐานความดีขององค์กรที่ นพ.ประทีป ได้ร่วมผลักดันและสร้างมา 

นางสายชล ศรทัตต์ ประธานชมรมเครือข่ายผู้ป่วยมะเร็งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นความพลาดของ รมว.สาธารณสุขและรัฐบาล เนื่องจาก นพ.ประทีป เป็นผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งเป็นผู้ที่มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ ซึ่งที่ผ่านมาชมรมได้เกาะติดสถานการณ์ความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นนี้ และในวันที่ 14 ก.ค. นี้ เราจะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ นพ.ประทีปต่อไป

นายปิ่น นันทะเสน นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า เคยร่วมงานกับ นพ.ประทีป สมัยที่เป็น สสอ.ราษีไศล ได้เห็นความตั้งใจในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษา ซึ่งการที่บอร์ด สปสช.ไม่รับรอบ นพ.ประทีปจึงถือเป็นความผิดพลาด วันนี้จึงขอมาให้กำลังใจ นพ.ประทีป เพื่อให้ท่านต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม