ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รัฐมนตรีสาธารณสุขฝากบุคลากร สธ.ฝังค่านิยม MOPH ลงลึกถึงจิตวิญญาณเพื่อบรรลุเป้าหมายประชาชนสุขภาพดี ระบบสุขภาพยั่งยืน เชื่อถ้าทั้ง 4 แสนคนรวมเป็นหนึ่งสามารถเปลี่ยนกระทรวงเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) บรรยายพิเศษเรื่อง “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ : สร้างคน สร้างคุณค่า สร้างอนาคตสาธารณสุขไทย”ในการประชุมระดับชาติ การพัฒนาศักยภาพมนุษย์ในระบบสุขภาพ (HR4H 2017) โดยระบุว่า การวางยุทธศาสตร์ 20 ปีของ สธ. วางอยู่บนพื้นฐานของไทยแลนด์ 4.0 โดยมีเป้าหมายคือการพัฒนาที่ยังยืน

ทั้งนี้ เมื่อจะตั้งเป้าใดๆ ก็ตาม ต้องมีวิสัยทัศน์ (vision) ที่ชัดเจนก่อน ซึ่งวิสัยทัศน์ของ สธ.คือจะเป็นองค์กรหลักด้านสุขภาพ ที่รวมพลังสังคมเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี จะเห็นว่าเป็นองค์กรหลักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรวมพลังสังคมโดยมุ่งเป้าเพื่อประชาชน

หลังจาก เมื่อมี vision แล้วต้องมี mission ซึ่งก็คือการพัฒนาความเป็นเลิศของระบบสุขภาพอย่างมีส่วนร่วมและเกิดความยั่งยืน โดยมุ่งสู่เป้าหมายคือประชาชนมีสุขภาพดี และเจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน

อย่างไรก็ดี ช่วงระหว่าง vision และเป้าหมายนี้ ยังมี core value หรือค่านิยมองค์กร ซึ่งก็คือ MOPH (Mastery, Originality, People centered,  Humility)

“ค่านิยมคือหลักคุณธรรมและความเชื่อที่คนใน สธ.ถือปฏิบัติทั้งกระทรวง คือสิ่งที่บ่งบอกพฤติกรรมของคนในกระทรวง สธ. และค่านิยมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เป้าหมายเป็นความจริง ดังนั้น ยุทธศาสตร์ People Excellence ต้องบวกด้วยค่านิยมเข้าไป เพราะฉะนั้น MOPH ต้องถูกฝังเข้าไปในจิตวิญญาณของคนกระทรวง สธ.” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อไปว่า คำว่า Mastery ก็คือ Mastery of mind ทำให้จิตใจเป็นนายตัวเอง คุณธรรมความดีเป็นนายตัวเอง

ส่วน Originality คือการเร่งสร้างสิ่งใหม่ ก็คือ Innovation นั่นเอง โลกยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ต้องเอาสิ่งเหล่านั้นมาสร้างสิ่งใหม่ สร้างกระบวนการทำงานใหม่ให้เกิดประโยชน์และทันต่อโลก ขณะที่ People centered มุ่งประชาชนเป็นศูนย์กลาง และ Humility อ่อนน้อมถ่อมตน

“ทั้ง 4 ข้อนี้ต้องร่วมเป็นหนึ่งเดียว เหมือนจิ๊กซอว์ที่มาต่อกัน และจิ๊กซอว์นั้นก็คือคนของกระทรวงมีทั้ง 4 ข้ออยู่ในใจ ในการประพฤติปฏิบัติ ในจิตวิญญาณ เพราะคนคือทุกสิ่งทุกอย่างขององค์กร เป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวขององค์กร สธ.มีคนทั้งหมดประมาณ 4 แสนคน ถ้ารวมเป็นหนึ่งเดียวพลังจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน” นพ.ปิยะสกล กล่าว

นพ.ปิยะสกล  ย้ำว่า การมี vision แต่ไม่มี action เรียกว่าฝัน ถ้าไม่มี vision มีแต่ action เรียกว่า Routine work แต่ถ้ามีทั้ง vision และ action ตามค่านิยม MOPH เราสามารถเปลี่ยนกระทรวงได้ทั้งกระทรวง เปลี่ยนโลกได้ทั้งโลก แต่ไม่มีใครจะทำสิ่งเหล่านี้ได้ถ้าทุกคนไม่นำไปปฏิบัติด้วยตัวเอง ดังนั้นขอฝากบุคลากร สธ.ทุกคนฝังลึก MOPH ในจิตวิญญาณ แล้ววันที่ประชาชนสุขภาพดี ระบบสุขภาพยั่งยืน คงไม่ไกลหรือต้องใช้เวลานานถึง 20 ปี