ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานบอร์ด HA ชี้ประเทศไทยยังขาดแคลนพยาบาลอีกมาก แนะ ก.พ.พิจารณาบรรจุข้าราชการตามความจำเป็น และ สธ.ต้องรักษาคนให้อยู่ในระบบให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็ปิดโรงพยาบาลไปเลยหรือกระจายอำนาจให้โรงพยาบาลบริหารอย่างเป็นอิสระดีกว่า

นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์

นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน), กรรมการแพทยสภา และรองอธิการบดีฝ่ายการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นถึงปัญหาการบรรจุพยาบาลวิชาชีพเข้ารับราชการว่า แม้ปีนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะให้เหตุผลว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีอัตราว่างจำนวนมาก จึงไม่อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ในตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ

อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะนำอัตราที่ว่างมาบรรจุหรืออนุมัติเพิ่มก็เป็นเพียงการเติมคนที่ยังค้างอยู่ให้เข้าระบบราชการเท่านั้น แต่ในอนาคตก็ยังจะมีพยาบาลที่จบใหม่ออกมาอีกเรื่อยๆ นอกจากนี้ ในภาพรวมแล้วประเทศไทยยังมีความขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพอีกจำนวนมากหากเทียบกับอัตราการเข้าถึงบริการของประชาชน ระดับความมุ่งหวังของประชาชน และระดับความก้าวหน้าในการรักษาพยาบาล ตลอดจนนโยบายเมดิคัล ฮับ ดังนั้นนโยบายการลดจำนวนข้าราชการ หรือจำกัดการเพิ่มของข้าราชการ ควรพิจารณาในรายละเอียดด้วยว่าข้าราชการประเภทไหนที่จำเป็น มีข้าราชการประเภทไหนที่ล้น และประเภทไหนที่ขาดแคลน ไม่ใช่เห็นว่ามีพยาบาลเยอะแล้วเลยไม่เพิ่มการบรรจุเข้ารับราชการ

“จำนวนพยาบาลของไทยอยู่ที่ 20 กว่าๆ ต่อประชากร 10,000 คน แต่ก็ยังถือว่ามีน้อยเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว และถ้าเทียบกับศักยภาพระบบการรักษาของไทยซึ่งอยู่ในระดับ World Class จะเป็น Medical Hub และเทียบกับความจำเป็นในการรองรับการขยายตัวของผู้สูงอายุ ต้องมีการขยายงานด้าน Primary Care งานพวกนี้ใช้พยาบาลเป็นหลักทั้งนั้น ไปดูโรงพยาบาลทั้งของ สธ. ของมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลทหาร มีที่ไหนบ้างที่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทั้งหลายล้นงานอยู่ว่างๆ ไม่มีหรอก แล้วพยาบาลคือคนที่มีความหมายต่อคุณภาพการรักษาพยาบาลมากที่สุด อยู่กับคนไข้มากที่สุด นานที่สุด แต่ละวันๆ ก็เห็นแต่พยาบาลเป็นหลัก ถ้าไม่อนุมัติพยาบาลมา ทางเดียวคือปิดโรงพยาบาล ลดปริมาณการรักษาพยาบาลลง ให้ประชาชนไปรักษากับเอกชนแทน มีอยู่แค่นี้ ไม่อย่างนั้นบริการก็ไม่มีคุณภาพ” นพ.ศุภชัย กล่าว

นพ.ศุภชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของภาระงบประมาณที่เพิ่มขึ้นหากต้องบรรจุพยาบาลเข้ารับราชการจำนวนมากนั้น ในมุมมองส่วนตัวมองว่าต่อให้ไม่บรรจุเป็นข้าราชการ ทางโรงพยาบาลก็ต้องจ้างพยาบาลเป็นลูกจ้าง กินเงินเดือนโรงพยาบาล แล้วโรงพยาบาลเอาเงินไหนมาจ่าย ก็เป็นเงินจากรัฐบาลทั้งสิ้น เพียงแต่เป็นกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวาแต่เรื่องนี้ทำให้พยาบาลรู้สึกว่าแพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ได้บรรจุ แต่พยาบาลไม่บรรจุ ต้องต่อสัญญาปีต่อปี ไม่มีความมั่นคงในอาชีพ

“คำว่าข้าราชการผมมองว่าเป็น Definition ของ ก.พ.เท่านั้นเอง แต่ถ้าอยู่ในหน่วยงานอื่นก็ไม่ใช่ข้าราชการที่ ก.พ.จะมายุ่ง อย่างมหาวิทยาลัยก็เป็นพนักงานราชการ แบบนี้ ก.พ.ก็ไม่สนใจ มันค่อนข้างจะเป็นการเล่นคำเสียมากกว่า ดังนั้นผมคิดว่า ก.พ.ต้องดูตามความจำเป็น และ สธ.ต้องพยายามรักษาพยาบาลให้อยู่ในระบบ ถ้าไม่สู้สุดฤทธิ์ ก็ควรปิดโรงพยาบาลหรือตัดโรงพยาบาลออกไปให้หน่วยงานอื่นที่ดูแลได้ หรือโอนโรงพยาบาลเป็นอิสระ ให้ไปบริหารเอง เพราะด้วยจำนวนที่มีในตอนนี้ก็ได้คุณภาพแค่นี้ ถ้าจะดีกว่านี้ก็ต้องเพิ่มอีก แต่ถ้าไม่รักษาคนไว้ ถ้าโรงพยาบาลมีคนออกไปสัก 1-2 คน คนอื่นก็อยู่ไม่ได้แล้วเพราะคนที่เหลือต้องทำแทนกันทั้งนั้น” นพ.ศุภชัย กล่าว