เลขาธิการชมรมพยาบาล รพ.สต.ย้ำวาระหลักปีนี้ต้องผลักดันโครงสร้างความก้าวหน้าในอาชีพ เปิดช่องพยาบาลเติบโตขึ้นเป็นผู้บริหารให้ได้ ชี้ปัจจุบัน รพ.สต.รับบทหนัก สธ.ต้องมอบความก้าวหน้าในวิชาชีพเพื่อเป็นกำลังใจการทำงานด้วย หวั่นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้พยาบาลแห่ย้ายกลับเข้าโรงพยาบาล
น.ส.อุมาวรรณ บุตรดีสุวรรณ เลขาธิการชมรมพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งประเทศไทย (พว.รพ.สต.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ พว.รพ.สต. ได้จัดประชุมวิชาการเรื่อง พยาบาลปฐมภูมิกับบทบาทในทีม PCC (Primary Care Cluster) สู่ความยั่งยืนของระบบสุขภาพประชาชน โดยมีพยาบาลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ใน รพ.สต., สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม และจากการประชุมพบว่าในแต่ละพื้นที่ล้วนประสบปัญหาเดียวกันคือภาระงานที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มอบหมายลงมาในพื้นที่มีจำนวนมาก แต่ในทางกลับกันกลับไม่มีความก้าวหน้าในวิชาชีพจนส่งผลต่อขวัญกำลังใจการทำงาน
น.ส.อุมาวรรณ กล่าวว่า ปัจจุบัน ภาระงานต่างๆ เทลงมาที่ รพ.สต.ค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่นนโยบาย PCC ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพยาบาลคือตัวขับเคลื่อนสำคัญอยู่ตรงกลางระหว่างแพทย์ เจ้าพนักงานสาธารณสุข สหสาขาวิชาชีพ และภาคีเครือข่าย งานต่างๆ โดนบีบมาจากข้างบนมาถึงล่างสุดคือ รพ.สต. ให้ผลิตผลงานออกไปเยอะๆ คนที่ออกเยี่ยมคนไข้ก็พยาบาล ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ คนไข้ติดเตียงหรือคนไข้ระยะสุดท้าย แต่ด้วยโครงสร้างความก้าวหน้าของพยาบาลวิชาชีพ ทำให้ไม่สามารถเติบโตขึ้นเป็นผู้อำนวยการ รพ.สต. ผู้บริหาร สสอ. หรือ สสจ.ได้ ซึ่งหากยังเป็นในลักษณะแบบนี้ต่อไป เชื่อว่าพยาบาลหลายคนจะขอย้ายกลับโรงพยาบาล และถือเป็นเรื่องที่ชุมชนจะเสียประโยชน์ เพราะแม้จะมีคนใหม่เข้ามาทำงานแทน แต่การทำงานในชุมชนจำเป็นต้องฝังตัวเพื่อเรียนรู้ขนบธรรมเนียม วิถีชีวิต ต้องใช้เวลา 5-10 ปี จึงจะลึกซึ้งในการทำงาน
น.ส.อุมาวรรณ กล่าวว่า ทิศทางการขับเคลื่อนของชมรม พว.รพ.สต.ในปีนี้ นอกจากการพัฒนาการทำงานต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญอีกประการคือการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความก้าวหน้าของพยาบาลวิชาชีพให้สามารถเติบโตในสายงานได้มากขึ้น ซึ่งชมรมเคยยื่นหนังสือถึง สธ. ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2559 เพื่อขอเรียกร้องความเป็นธรรมและปรับโครงสร้างกำลังคน และจะติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“ชมรม พว.รพ.สต.ตั้งมาหลายปี ก่อนหน้านี้ก็ขับเคลื่อนในเชิงการทำงาน แต่ระยะหลังเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับวิชาชีพเรา อย่างเจ้าพนักงานสาธารณสุข อนุปริญญา สามารถเป็น ผอ.รพ.สต.ได้ แต่พยาบาลวิชาชีพ จบ ป.โท ป.เอก หรือสอบวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาก็ไม่มีสิทธิขึ้น ทั้งๆ ที่พยาบาลออกมาอยู่ในพื้นที่ อยู่ใน รพ.สต.มาเกือบ 20 ปีแล้วทำไมไม่มีความก้าวหน้าให้เลย พอติดเรื่องกรอบโครงสร้าง มันก็ทำให้สหวิชาชีพที่อยู่ด้วยกันใน รพ.สต.ก็เหมือนจะแก่งแย่งกัน มันไม่ได้ทำให้เกิดความผาสุกในองค์กร คือต้องยอมรับในเนื้องาน ถ้าเจ้าพนักงานสาธารณสุขเก่ง นักวิชาการเก่ง เรายอมรับ ใครเก่งก็ขึ้น แต่อย่ามาบอกว่าต้องเป็นวิชาชีพนั้นวิชาชีพนี้ถึงจะขึ้นได้ ยิ่งปัจจุบันงานมาขนาดนี้ หนักแน่นอน สิ่งที่จะเสริมสร้างกำลังใจคือความก้าวหน้าหรือค่าตอบแทนที่ควรลงมาในพื้นที่ เราไม่ปฏิเสธการทำงานหนัก แต่ต้องมีความก้าวหน้าให้เราด้วย” น.ส.อุมาวรรณ กล่าว
- 223 views