ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“พล.ต.อ.อดุลย์” ตรวจการบ้านประชารัฐเพื่อสังคม E6 เผยคืบหน้าหลายประเด็น “จ้างงานคนพิการ-ผู้สูงอายุ” ทะลุเป้า เตรียมชง ครม.รับทราบ กำชับคณะทำงานเร่งวางแผนเคลื่อนงานปี 61

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม (E6) ครั้งที่ 3/2560 พร้อมด้วย ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะหัวหน้าทีมภาคประชาสังคม นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานหอการค้าไทย ผู้แทนทีมภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานในประเด็นเร่งด่วน (5 Quick Win) ได้แก่ 1.การส่งเสริมการมีรายได้และมีงานทำของผู้พิการ 2.การส่งเสริมการมีรายได้และมีงานทำของผู้สูงอายุ 3.การออมเพื่อการเกษียณอายุ 4.ที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัย และ 5.ความปลอดภัยทางถนน ที่ได้เริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ถึงเดือนกันยายน 2560

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ตลอดช่วงเวลากว่า 10 เดือนที่ผ่านมา ในแต่ละประเด็นมีความก้าวหน้าไปมาก ซึ่งหลังจากการสรุปผลความก้าวหน้าในครั้งนี้ ตนจะนำผลการดำเนินงานของคณะทำงาน E6 รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในประเด็นต่างๆ รวมถึงมอบหมายให้คณะทำงานกำหนดแนวทางการดำเนินงานในปี 2561 พร้อมทั้งวางเป้าหมายในการขับเคลื่อน เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน มีการระบุผลลัพธ์ และผู้รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย จิตอาสาประชารัฐ และการตั้งกองทุนประชารัฐเพื่อสังคม ในส่วนของรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และอำนวยความสะดวกในการดำเนินการตามนโยบายประชารัฐอย่างเต็มที่

ทพ.สุปรีดา กล่าวว่า ในส่วนของภาคประชาสังคม เน้นการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการ และเครือข่ายขับเคลื่อนเชิงประเด็นร่วมกับภาครัฐ และภาคเอกชน ได้แก่ การหนุนเสริมข้อมูลและเครือข่ายคนพิการในประเด็นการจ้างงานคนพิการซึ่งมีภาคเอกชนจ้างงานคนพิการภายใต้ความร่วมมือประชารัฐกว่า 7,500 อัตราในปี 2560 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7,376 อัตรา และร่วมขับเคลื่อนการสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรของคนพิการ การสนับสนุนส่งเสริมการจ้างงานแรงงานผู้สูงอายุในภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมให้เกิดการมีงานทำสูงถึง 36,476 คน ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และการทำงานอาชีพอิสระที่เพิ่มขึ้น

การส่งเสริมการออมเพื่อยามเกษียณ ที่เกิดการประสานความร่วมมือภาคเอกชน เครือข่ายแรงงานนอกระบบ และเครือข่ายภาคประชาชนต่าง ๆ ในการรณรงค์ให้เกิดการวางแผนการเงินและการออมอย่างจริงจัง การพัฒนาที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัย ทั้งการพัฒนาชุมชนต้นแบบตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน การพัฒนาแผนระยะกลางและระยะยาวเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ การสนับสนุนข้อมูลวิชาการและเครือข่ายในการรณรงค์สร้างความตระหนักส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ประชารัฐร่วมใจปลอดภัยทุกเส้นทางร่วมกัน 55 องค์กร ตลอดจนการศึกษาและเริ่มขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนากลไกระบบการคลังเพื่อสังคม (Social Impact Finance) เพื่อเป็นทางเลือกของการสนับสนุนงบประมาณในการทำงานด้านการพัฒนาสังคม

นายวิชัย กล่าวว่า ภาคธุรกิจได้เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาสังคมในมิติต่างๆ อาทิ การขับเคลื่อนการจ้างงานผู้พิการในสถานประกอบการ ได้มีการสร้างความเข้าใจกับบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ในการจ้างงานคนพิการตามมาตรา 33 และดำเนินการส่งเสริมอาชีพคนพิการตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

โดยในวันที่ 29 กันยายน เวลา 11.30 – 17.30 น. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย จัดงาน “สานพลังบริษัทจดทะเบียน เพื่อสังคมไทยยั่งยืน” ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของภาคธุรกิจ ในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้เข้มแข็ง และเป็นแรงบันดาลใจให้บริษัทจดทะเบียนที่สนใจเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาสังคมต่อไป และในวันที่ 10 ตุลาคม จะมีการจัดงาน “Japanese Executive Dinner Meeting” กับบริษัทญี่ปุ่น 66 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางบริษัทญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเข้าหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อขับเคลื่อนการจ้างงานคนพิการในบริษัทรัฐวิสาหกิจด้วย