ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เพจ TaxBugnoms (บล็อกภาษีข้างถนน) ชื่นชม-ยินดี ‘ตูน’ ทำดีเพื่อ รพ. พร้อมชวนตั้งคำถาม หากมองในด้านการบริหารจัดการด้านภาษีนั้น มันคือสิ่งที่ล้มเหลวหรือไม่

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.60 Faceboo เพจ TaxBugnoms (บล็อกภาษีข้างถนน) ซึ่งเป็นเพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับด้านภาษี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีนักร้องชื่อดัง "ตูน บอดี้สแลม" จะออกวิ่งระดมทุนไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" จากสุดเขตแดนใต้ สู่สูงสุดแดนสยาม เริ่มต้นจาก อ.เบตง จ.ยะลา และสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กิโลเมตร โดยจะเริ่มออกสตาร์ทวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่ อ.เบตง จ.ยะลา และวิ่งติดต่อกัน 4 วันพัก 1 วัน และจะสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 25 ธ.ค.2560 รวมระยะเวลา 55 วัน พร้อมตั้งเป้าหมายยอดเงินบริจาคประมาณ 700 ล้านบาท หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จจากการวิ่งจากกทม.ไป บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 10 วัน ด้วยระยะทาง 400 กม. เพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์ด้านการแพทย์ให้กับ รพ.บางสะพาน มาแล้ว

เพจ TaxBugnoms ระบุว่า "ทุกก้าวของพี่ตูนเพื่อโรงพยาบาล คือความล้มเหลวในการจัดการภาษี ? รายละเอียดดังนี้

ทุกก้าวของพี่ตูนเพื่อโรงพยาบาลคือ ความล้มเหลวในการจัดการภาษี?

ทำไมต้องวิ่งเพื่อรับบริจาค ? แล้วเงินงบประมาณในการพัฒนาประเทศหายไปไหน ใครหลายคนคงตั้งคำถามนี้ขึ้นมา หลังจากที่เห็น โครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" ซึ่งเป็นโครงการที่รวบรวมเงินบริจาค เพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาลที่ยังขาดแคลน โดยมี "พี่ตูน" เป็นคนวิ่ง (อีกแล้ว) แต่เพิ่มเติมด้วยระยะทาง 2,191 กม.จากเบตงถึงแม่สาย

พรี่หนอมลองค้นหาข้อมูลจากเว็ฐไซต์ภาษีไปไหน ซึ่งเป็นฐานข้อมูลใช้จ่ายภาครัฐ เปรียบเทียบข้อมูลงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขแล้วพบว่า ปี 2559 มีงบประมาณ 247,386 ล้านบาท และมีการเบิกจ่าย 120,298 ล้านบาท ส่วนปี 2560 มีงบประมาณ 255,155 ล้านบาท และมีการเบิกจ่าย 113,694 ล้านบาท

ส่วนงบประมาณและการเบิกจ่ายของกระทรวงกลาโหม พบว่า ปี 2559 มีงบประมาณ 206,461 ล้านบาท และมีการเบิกจ่าย 184,949 ล้านบาท ส่วนปี 2560 มีงบประมาณ 213,880 ล้านบาท และมีการเบิกจ่าย 165,881 ล้านบาท

ตัวเลขของทั้ง 2 กระทรวงนี้บอกอะไรเรา? บอกว่าเราเสียภาษีน้อยเกินไปจนงบประมาณไม่พอให้เบิกจ่าย หรือบอกว่าการใช้จ่ายของภาครัฐที่ไม่สมดุล หรือบอกว่ามันคือทั้งสองอย่าง พรี่หนอมคงไม่กล้าฟันธงตอบ เพราะไม่ได้รู้รอบเรื่องราวการบริหารจัดการประเทศขนาดนั้น

แต่พรี่หนอมรู้สึกแค่ว่า ถึงแม้เราจะชื่นชมและยินดีในการทำเพื่อโรงพยาบาลของพี่ตูน แต่ถ้ามองในด้านการบริหารจัดการด้านภาษีนั้น มันคือสิ่งที่ล้มเหลวหรือเปล่า?

เอาเป็นว่าตั้งคำถามไว้แค่นี้ แต่อยากให้ทุกคนลองแชร์ความเห็นกันครับ :)

ไหนๆก็พูดถึงเรื่องนี้ พรีหนอมขออนุญาตให้ความรู้ภาษีเพิ่มเติมเสียหน่อย สำหรับคนที่บริจาคครั้งละ 10 บาท โดยการพิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099 จะเห็นว่ามี "หมายเหตุ" เขียนไว้ว่า ยอดเงินบริจาคจาก sms ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

นั่นแปลว่า ทุกการบริจาคทุกครั้ง เราต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10.70 บาท โดยสาเหตุที่ต้องจ่ายเพราะมันเป็นค่าบริการโทรศัพท์ที่ต้องเรียกเก็บตามกฎหมาย ไม่ใช่ความใจร้ายของผู้ให้บริการแต่อย่างใดครับผม

ถ้ามองแบบความคุ้มค่า การเลือกบริจาคโดยโอนเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ (โครงการก้าวคนละก้าว) เลขที่บัญชี 111-393-5263 โดยตรงน่าจะเป็นความคุ้มค่ากว่า เพราะว่าไม่ต้องเสียเงินค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับคนที่มีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์อยู่แล้วก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่สำหรับคนที่โอนข้ามธนาคาร ถ้าหากบริจาคเกิน 357 บาท การเสียค่าธรรมเนียมก็จะคุมค้ากว่าการส่ง SMS เพราะว่าเป็นจำนวนเงินที่เริ่มเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมากกว่าค่าธรรมเนียมแล้ว (คิดที่ค่าธรรมเนียม 25 บาท)

และถ้าหากใครต้องการนำเงินบริจาคไปลดหย่อนภาษี เข้าใจว่าก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันเพราะมีการระบุไว้ในข้อมูลของมูลนิธิครับ http://www.foundation.pmk.ac.th/html/privilege.html ซึ่งสามารถขอได้ที่เพจ ก้าว ตามรายละเอียดดังนี้ครับ (Update เพิ่มเติม)

ผู้บริจาคสามารถขอรับใบเสร็จรับเงินเพื่อลดหย่อนภาษี สำหรับการบริจาค 500 บาทขึ้นไป โดยเก็บหลักฐานการบริจาค และติดต่อขอใบเสร็จรับเงินภายใน 5 วัน นับจากวันที่บริจาค ได้ที่
•• https://www.facebook.com/kaokonlakao (ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 – 30 มิถุนายน 2561)
•• มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โทร.02-3543699, 098-860-1411 แฟกซ์. 02-3547728 (จันทร์-ศุกร์ 8.00-19.00 น./ เสาร์-อาทิตย์ 8.00-16.00น.) หรือส่งมาที่ E-mail : foundation_pmk@hotmail.com

สุดท้าย พรี่หนอมเชื่อว่าการวิ่งของพี่ตูนเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศนี้ครับ เพราะมันคือการทำด้วยใจเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ขาดแคลนระบบสาธารณสุขที่ดี รวมถึงเป็นการกระตุ้นให้คนทุกคนเห็นถึงความสำคัญ

แต่ในอีกแง่หนึ่งก็มีคำถามตามมาว่า แล้วจริงๆ สาเหตุที่พี่ตูนวิ่งนั้น มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ความล้มเหลวของภาษีที่เก็บไม่ได้ หรือ การบริหารภาษีที่ผิดพลาด หรือเพราะแก็สโซฮอลล์ ฯลฯ

แต่อย่างน้อยที่สุด.. พรี่หนอมคิดว่าการวิ่งของพี่ตูนจะทำให้เราตั้งคำถามกับเรื่องนี้มากขึ้น และหวังว่าคำตอบคงไม่ใช่ว่าเป็นความผิดของใครเพียงเท่านั้น

...เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการแก้ไขครับ เพื่อที่พี่ตูนจะได้ไม่ต้องวิ่งแบบนี้ไปตลอดชีวิต :) #TAXBugnoms