ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เด็กไทยสุดเจ๋งส่งชุดตรวจมะเร็งปากมดลูก “LadyKit” คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ Start Up Thailand League 2018 สุดยอดผลงาน “LadyKit” ชุดตรวจมะเร็งปากมดลูกเบื้องต้นด้วยตนเอง นวัตกรรมใหม่ของไทย ใช้ง่ายไม่ต้องตรวจภายใน รู้ผลภายใน 10 นาที เตรียมต่อยอดเชิงพาณิชย์ วางจำหน่ายตามเว็บไซต์ และร้านขายยาทั่วไปได้ภายใน 2-3 ปีนี้

ในปัจจุบันประชากรสตรีเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer) มากเป็นอันดับ 2 ของโลก และยังเป็นมะเร็งที่ประชากรสตรีไทยเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศเช่นกัน จากการศึกษาทางด้านไวรัสวิทยา พบว่าเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) โดยเฉพาะเชื้อไวรัส HPV 16 และ 18 เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกสูงถึงร้อยละ 70 และมีอีก 13 ชนิดที่จัดเป็นเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) ที่มีความเสี่ยงสูง (High risk type) ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น จากเชื้อไวรัส HPV กว่า 100 ชนิด ซึ่งอุบัติการณ์โดยรวมของโรคมะเร็งปากมดลูกมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่สูงขึ้นเรื่อยๆ

จากแบบสอบถามกลุ่มสตรีไทยอายุ 16 – 50 ปี จำนวน 300 คนพบว่า สาเหตุหลักที่สตรีไทยกลุ่มตัวอย่างนี้ส่วนใหญ่ไม่ต้องการเข้ารับการตรวจภายใน (Per-Vaginal examination: PV) และ Pap-smear ในโรงพยาบาล หรือคลินิก คือ รู้สึกเจ็บหรือเขินอายไม่กล้ารับการตรวจ (32.1%) ไม่มีเวลาไปตรวจเนื่องจากอาจจะต้องเสียเวลาในสถานพยาบาล หรือ คลินิกจนต้องหยุดงาน (29.5%) และไม่ทราบมาก่อนว่าควรได้รับการตรวจ (24.4%)

จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ทีม Bionanomer นำทีมโดย นายชาวิน แดนมะตาม (คริส) และ พญ.ฝนทิพย์ วัชราภรณ์ กลุ่มภารกิจสุขภาพโลกมหิดล (Mahidol University Global Health) มหาวิทยาลัยมหิดล มีความคิดริเริ่มวิจัยและพัฒนานวัตกรรม “LadyKit” ขึ้นมาใน Plattform ของชุดตรวจ (Test Strip) โดยการตรวจจับ (Detect) เชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) ในชนิดที่มีความเสี่ยงสูง (High risk type) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)

มีวิธีการใช้ที่ง่ายมาก และไม่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถตรวจได้โดยหยดตัวอย่างปัสสาวะ (Urine) ลงไปในหลุมทดสอบของชุดตรวจ (Test Strip) ของ “Lady Kit” โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจภายใน (Per-Vaginal examination: PV) และ Pap-smear ในโรงพยาบาล หรือคลินิก

คุณสมบัติเด่นของชุดตรวจ “LadyKit” คือ ง่ายต่อการใช้งาน สะดวก สบาย มั่นใจ ปลอดภัย โดยผู้ใช้สามารถทราบผลของการติดเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) ได้ภายใน 5 นาที รวดเร็วกว่ากระบวนการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกในสถานพยาบาล หรือการใช้ชุดตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบดั้งเดิมที่ต้องส่งตัวอย่างเซลล์ไปที่ Lab แล้วรอผลการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก จากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) อีกอย่างน้อยถึง 1 สัปดาห์

ซึ่งผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงชุดตรวจ (Test strip) “LadyKit” ได้ง่าย โดยคาดว่าจะสามารถวางจำหน่าย ตามเว็บไซต์ และร้านขายยาทั่วไป ได้ภายใน 2 – 3 ปีนี้ ในราคาชุดละ 500 บาท สำหรับแนวทางการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ในอนาคตนั้น ทางทีม Bionanomer หวังที่จะทำวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้ชุดตรวจสามารถใช้ตรวจหาเชื้อ HPV ได้มากสายพันธุ์ขึ้น เพื่อเพิ่มฐานความต้องการผลิตภัณฑ์ของตลาดออกไปสู่ภูมิภาคอื่นทั่วโลก

ทั้งนี้สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) จัดงาน “STARTUP Thailand 2018”  โดยมีการแข่งขันชิงชนะเลิศสุดยอดสตาร์ทอัพระดับประเทศ ประจำปี 2561 ระดับมหาวิทยาลัย  เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 ผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผู้ที่คว้าแชมป์สุดยอด STARTUP THAILAND LEAGUE 2018 คือทีม  Bionanomer (ไบโอนาโนเมอร์) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จากผลงาน LADYKIT  ซึ่งเป็นชุดตรวจหาเชื้อมะเร็งปากมดลูก ได้ภายใน 5 นาที ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ FIFTH GEAR จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ดิ การ์เดี่ยน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่ ทีม EASY GAS จาก มหาวิทยาลัยศิลปากร

ขอบคุณข้อมูลและภาพ จากฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คาดอีก 2 ปีวางจำหน่ายชุดตรวจหาเชื้อมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง 'LadyKit'