ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รวมพลัง 5 องค์กรเครือข่ายหมออนามัย กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพคนไทยให้ยั่งยืน

เมื่อเร็วๆนี้ - ณ รร.ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ แจ้งวัฒนะ กทม. คณะกรรมการ 5 องค์กรประกอบด้วย มูลนิธิเครือข่ายเครือข่ายหมออนามัย สมาคมหมออนามัย สมาคมชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข และชมรมรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(ฝ่ายบริหาร) จัดประชุมสร้างความร่วมมือทำงานสร้างสุขภาพและสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกำหนดประเด็นขับเคลื่อนพัฒนาสุขภาพของคนไทยให้ยั่งยืน

นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมอออนามัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการระดมความคิดเห็นและรวบรวมผลงานของ 5 องค์กรเครือข่ายหมออนามัยครั้งสำคัญ ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์แนวทางการพัฒนาระบบสุขภาพของประชาชน สร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรสาธารณสุขเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ มีเป้าหมายคือประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข โดยผลงานสำคัญที่ผ่านมาของมูลนิธิเครือข่ายหมอนามัย คือการขับเคลื่อนล่ารายชื่อ15 ล้านคน หนุน พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ และการดำเนินการโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ชวนคนเลิกบุหรี่ให้ได้ 3 ล้านคน ในเวลา 3 ปี สร้างสุขภาพดีห่างไกลโรค

นายมงคล เงินแจ้ง นายกสาคมหมออนามัย กล่าวว่า ผลงานของสมาคมที่ผ่านมาคือร่วมกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม หนุน พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ประสานความร่วมมือบริษัท ห้างร้านจ้างงานผู้พิการและให้เข้าทำงานใน รพ.สต.แทนการส่งเงินเข้ากองทุนฯซึ่ง รพ.สต.ทั่วประเทศยังขาดแคลนกำลังคน โดยในปี 2560 ผลักดันให้มีผู้พิการทำงานใน รพ.สต. 30 คน ปี 2561 และ 2562 จำนวนเท่ากัน 225 คน และในปี 2563 จะพยายามเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีผลงานเด่นคือกิจกรรมปั่นจักยานของสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ “ปั่น ปลุก ลุก สร้าง” สนับสนุนโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยฯ ส่วนในอนาคตมองว่าเรื่องสำคัญที่ควรผลักดันต่อ คือเรื่อง อาหาร ออกกำลังกาย ซึ่งเรื่องใกล้เคียงกับงานหมออนามัย โดยจะยึดมั่นทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานภาคีขับเคลื่อนส่งเสริมการออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพของประชาชนให้ดีขึ้นต่อไป

นายประพัทธ์ ธรรมวงศา นายกสมาคมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ มีเครือข่าย รพ.สต.ทั่วประเทศ 9,775 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) 878 แห่ง เป็นองค์กรที่ประสานการทำงานในระดับพื้นที่และระดับกระทรวงสาธารณสุข การทำงานเน้นส่งเสริมป้องกัน ขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่ระดับอำเภอ มียุทธศาสตร์ขับเคลื่อน คือ การแก้ไขปัญหาสุขภาพของคนในอำเภอ เช่น เรื่องอุบัติเหตุ ไข้เลือดออก โรคเรื้อรัง เป็นต้น ซึ่งการหารือในวันนี้ได้ร่วมกันหาทางป้องกัน ขับเคลื่อนแก้ไขในเรื่องดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อคนไทยสุขภาพดี คนป่วยได้รับการดูแล

นอกจากนี้ภารกิจสำคัญอีกประการคือ จะเร่งขับเคลื่อน พ.ร.บ.ปฐมภูมิ ซึ่งจะประกาศใช้ประมาณวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 นี้ โดยทั้ง 5 องค์กรจะร่วมหารือแนวทางขับเคลื่อนหน่วยงานบริการปฐมภูมิ โดยเฉพาะ รพ.สต.ทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน เรื่อง การส่งเสริมป้องกันโรค ดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนพัฒนาหน่วยบริการให้ได้มาตรฐาน ให้ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข เราจะรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อสร้างพลังที่เข้มแข็งขับเคลื่อนภารกิจให้สำเร็จ

นายปิ่น นันทะเสน อุปนายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า จะผลักดันสภาวิชาชีพให้มีความเข้มแข็ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรสาธารณสุข และพี่น้องประชาชนผู้มารับบริการด้านสุขภาพ ที่ผ่านมา ร่วมกับ 4 องค์กรขับเคลื่อนผลักดันภารกิจร่วมกัน เช่น โครงการ 3 ล้าน 3 ปีฯ ให้คนสูบเลิกสูบบุหรี่ ตามเป้าหมาย และการสร้างสภาวิชาชีพซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่สำคัญที่จะเร่งผลักดันให้เกิดกฎหมาย เกิดการรับรองวิชาชีพให้มีใบประกอบวิชาชีพ เพื่อสร้างความมั่นใจ และเป็นไปตามระบบมาตรฐานการให้บริการ ซึ่งขณะนี้จะเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด

ทั้งนี้ในการประชุมได้ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานและขับเคลื่อนร่วมกัน คือ การพัฒนาระบบสุขภาพภาคประชาชน การพัฒนาความเข้มแข็งขององค์กรสาธารณสุข การสนับสนุนการทำงานสภาการสาธารณสุขชุมชน และการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ การขับเคลื่อนผ่าน พ.ร.บ.สุขภาพระบบปฐมภูมิ พ.ศ. 2561 โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาให้ประชาชนมีสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุขและระบบสุขภาพยั่งยืน