ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมช.สาธารณสุขตอบกระทู้ถาม ส.ส.เพื่อไทย จัดสรรงบให้ รพ.สต.แห่งละ 1 ล้านบาท/ปี ไม่เหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน ชี้ต้องใช้งบเพิ่มขึ้นถึง 6,671 ล้านบาท ส่วนแผนส่งเสริมความก้าวหน้าบุคลากร รพ.สต.ขึ้นชำนาญการพิเศษ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.พ.

วันที่ 15 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาได้ตีพิมพ์คำตอบกระทู้ถามของ นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จ.มหาสารคาม ซึ่งได้ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ในประเด็นปัญหาและความต้องการของบุคลากรสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 4 ข้อ ประกอบด้วย

1.ปัจจุบันบุคลากรสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและ รพ.สต. หลายตำแหน่งยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ พนักงานรัฐ หรือพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ส่งผลให้ขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน รัฐบาลมีนโยบายหรือแผนการจัดกรอบอัตรากำลัง (FTE) ในการบรรจุเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขเป็นข้าราชการหรือไม่ อย่างไร

2.รัฐบาลมีแผนสนับสนุนอัตรากำลังข้าราชการด้านสาธารณสุขและบุคลากรสายสนับสนุนหรือไม่ อย่างไร

3.บุคลากรทางด้านสาธารณสุขใน รพ.สต. ส่วนใหญ่มีตำแหน่งสูงสุดเพียงระดับชำนาญการ ในขณะที่ข้าราชการของกระทรวงอื่นๆ สูงถึงระดับชำนาญการพิเศษ รัฐบาลมีแผนส่งเสริมความก้าวหน้าของบุคลากร รพ.สต. ขึ้นสู่ระดับชำนาญการพิเศษหรือไม่ อย่างไร

4.เงินบำรุงโรงพยาบาล (เงิน Fixed Cost) ไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาลและการให้บริการแก่ประชาชน รัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเงินบำรุงตามขนาดของโรงพยาบาลโดยไม่นับรวมจากรายได้ค่าบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้หรือไม่ อย่างไร และ รัฐบาลสามารถเพิ่มงบประมาณสนับสนุน รพ.สต. เป็นจำนวน 1 ล้านบาท/แห่ง/ปี ได้หรือไม่ อย่างไร

นายสาธิต ปิตุเตชะ

ทั้งนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นผู้ตอบกระทู้ดังกล่าวโดยมีรายละเอียดดังนี้

1.กระทรวงสาธารณสุขมีแผนปฏิรูปกำลังคนและภารกิจบริการสุขภาพในระยะ 10 ปี (พ.ศ.2561-2570) และมีการใช้กรอบอัตรากำลังตามแผนกำลังคนโดยเขตสุขภาพตามบริบทของพื้นที่ ทั้งนี้ การจัดสรรอัตรากำลังคนด้านสุขภาพในทุกสายงานจะพิจารณาจากหน่วยบริการที่มีความขาดแคลนสูง พื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร มีภาระงานมากเป็นอันดับต้น ๆ ในการบรรจุเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นข้าราชการ รวมถึงพนักงานของรัฐ และพนักงานกระทรวงสาธารณสุขในแต่ละเขตสุขภาพ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนให้มีอัตรากำลังให้เพียงพอตามแผนกำลังคนข้างต้นต่อไป

2.รัฐบาลมีแนวทางการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญตามมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2562 - 2565) โดยจัดสรรอัตรากำลังตามภารกิจเพื่อใช้กำลังคนแต่ละประเภทให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบทบาทภารกิจของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งภารกิจหลักและภารกิจสนับสนุน โดยพิจารณาจัดสรร/เกลี่ยอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุหรืออัตราว่างที่ควรยุบเลิก หรือทดแทนด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่น มีกรอบการใช้กำลังคนภาครัฐที่เป็นข้าราชการด้านสาธารณสุขและบุคลากรสายสนับสนุน จำแนกตามภารกิจ คือ ภารกิจหลัก 90-100% ภารกิจสนับสนุนทางวิชาการ 50-75% และภารกิจสนับสนุนที่เป็นงานประจำพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ 20-25% ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562

3.การส่งเสริมความก้าวหน้าของบุคลากร รพ.สต. และ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติขึ้นสู่ระดับชำนาญการพิเศษอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยคณะทำงานเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งในระดับชำนาญการพิเศษในภาพรวมของทุกกระทรวง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงเกี่ยวกับระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน เพื่อให้เป็นไปตามความเห็นและข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน และเมื่อคณะอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทนเห็นชอบแล้ว จะนำเสนอ ก.พ. เพื่อกำหนดเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการให้ส่วนราชการไปปฏิบัติต่อไป

4.กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนเป็นเงินบำรุงโรงพยาบาลดังนี้

4.1 จัดสรรโดยการปรับเกลี่ยรายรับของแต่ละหน่วยบริการ ภายใต้เงื่อนไขการจ่ายแบบขั้นบันไดตามจำนวนผู้มีสิทธิสำหรับบริการผู้ป่วยนอกทั่วไปและค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับบริการพื้นฐาน และการเพิ่มค่าถ่วงน้้ำหนักบริการผู้ป่วยในตามกลุ่มระดับหน่วยบริการ

4.2. การคำนวณการเพิ่มค่าถ่วงน้้ำหนักอัตราการจ่ายค่าบริการผู้ป่วยในที่ใช้บริการในเขตสุขภาพตามประเภทหน่วยบริการและจำนวนเตียง

4.3. รายรับเงินเหมาจ่ายรายหัวประเภทผู้ป่วยนอก ส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน รักษาผู้ป่วยไม่ต้องน้อยกว่า 100% ของประมาณการจัดสรรปีที่ผ่านมา

4.4. จัดสรรเพิ่มเติมในโรงพยาบาลที่มีจำนวนประชากรผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่ำกว่า 30,000 คน

ส่วนคำถามประเด็นที่ว่ารัฐบาลสามารถเพิ่มงบประมาณสนับสนุน รพ.สต. เป็นจำนวน 1 ล้านบาท/แห่ง/ปี ได้หรือไม่นั้น นายสาธิตตอบว่าการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเพื่อสนับสนุนเงินบำรุง รพ.สต. 9,822 แห่งทั่วประเทศ เป็นจำนวน 1 ล้านบาท/ปี จะต้องใช้งบประมาณถึงปีละ 9,822 ล้านบาท ปัจจุบันใช้งบประมาณ 3,150.3 ล้านบาท เท่ากับต้องเพิ่มงบประมาณถึง 6,671.7 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มงบประมาณจะยังคงไม่เหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน และระบบการสนับสนุนงบประมาณที่เป็นเงินบำรุงของโรงพยาบาลแม่ข่ายที่ดำเนินการอยู่ยังส่งผลให้เกิดการจัดบริการให้ประชาชนของ รพ.สต. มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง ได้ดียิ่งขึ้นตามลำดับแล้ว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

‘สาธิต’ ตอบปมยกเลิกอัตรา ขรก.ตั้งใหม่แพทย์ ยืนยันบรรจุเข้าทำงานตามกรอบอัตรากำลังได้ทั้งหมด