ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขชี้ อสม.จะมีบทบาทสำคัญให้คำแนะนำการป้องกันตัวจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แก่ประชาชนในระยะ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ด้านเอไอเอสจัดพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะโครงการประกวดการใช้งานแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ ปีที่ 3 จำนวน 123 แห่ง พร้อมยืนยันพัฒนาแอปฯให้หน่วยบริการปฐมภูมิเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลในอนาคต

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในพิธีมอบรางวัลโครงการประกวดการใช้งานแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ ปีที่ 3 เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2563 ว่า ใน Step ต่อไป อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยขีดวงให้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีผลควบคุมให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด โดย อสม.ต้องช่วยกันให้ความรู้และแนวทางการป้องกันโรคแก่ประชาชนในต่างจังหวัด วิธีง่าย ๆ คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เป็นมาตรการง่าย ๆ ที่ป้องกันได้ และหากอยู่ในที่ชุมชนต้องใส่หน้ากาก เพราะไม่ทราบว่าในพื้นที่นั้นจะมีผู้ที่อยู่ในระยะฟักตัวของโรคเท่าไหร่

"ฉะนั้นเรื่องนี้ อสม.ก็จะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ยิ่งถ้ามีการมีส่วนร่วมของ อสม. ผ่านแอปฯ อสม.ออนไลน์อยู่แล้วก็จะทำให้การทำงานรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทุกท่านอย่าตระหนกจนเกินไปแล้วก็อย่าประมาท เราป้องกันตัวเองได้ พี่น้อง อสม.ต้องพยายามเป็นผู้นำในการให้ความรู้และคำแนะนำให้ได้" นายสาธิต กล่าว

ในส่วนของการรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่นนั้น นายสาธิต กล่าวว่ารัฐบาลมีความพร้อมเต็มที่ 100% รอเวลาที่ทางการจีนจะอนุญาตให้เดินทางไปรับ โดยขณะนี้มีคนไทยลงทะเบียนเดินทางกลับแล้วประมาณ 140 คน แต่ก็มีอีกบางส่วนที่ไม่อยากเดินทางกลับเพราะยังติดภารกิจอยู่

นายสาธิต กล่าวอีกว่า การใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญมากของทุกหน่วยงานในยุคนี้ กระทรวงสาธารณสุขเองมีเครือข่ายที่สำคัญคือ อสม. 1.04 ล้านคนทั่วประเทศ ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพให้ทันกับยุคของการเปลี่ยนแปลง มีทักษะการใช้เทคโนโลยีให้เป็น ถ้าสามารถพัฒนาศักยภาพ อสม. ให้สนองงานของกระทรวงสาธารณสุขได้จะเป็นมูลค่ามหาศาลแก่ประเทศ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่เข้ามาช่วยทำโครงการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันกันในการใช้เทคโนโลยีในการทำงาน

นายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กรของเอไอเอส กล่าวว่า โครงการประกวดการใช้งานแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ ปีที่ 3 มีหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิและชมรม อสม. สมัครเข้าร่วม 627 แห่ง มีหน่วยบริการที่ได้รับรางวัล 123 แห่ง แบ่งเป็นรางวัลดีเด่นระดับประเทศ 10 แห่ง รางวัลดีเด่นระดับจังหวัด 82 แห่ง และรางวัลดาวรุ่งอีก 31 แห่ง

"สิ่งที่พบจากการประกวดครั้งนี้คือ อสม.มีศักยภาพและพัฒนาทักษะในการใช้งานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามารถเรียนรู้การใช้ฟังชั่นที่มีความซับซ้อนขึ้น เช่น การรายงานพิกัดแผนที่และการสำรวจเหตุต่าง ๆ ผ่านแอปฯได้อย่างคล่องแคล่ว ตลอดจนสามารถนำแอปฯ ไปบูรณาการงานด้านสาธารณสุขชุมชนได้หลากหลาย เช่น การติดตามผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่ขาดนัดรับยาให้กลับมารับยาอย่างต่อเนื่อง การติดตามผู้ที่กลับจากประเทศซาอุดิอาระเบียเพื่อป้องกันโรค MERS การเฝ้าระวังเด็กจมน้ำในช่วงปิดเทอม การสำรวจการขายยาชุดในร้านขายของชำ เป็นต้น" นายวีรวัฒน์ กล่าว

ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอไอเอส กล่าวว่า การเอาเทคโนโลยีมาช่วยงานสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง อสม.ออนไลน์ เป็นแอปฯที่เอไอเอสตั้งใจทำขึ้นมา และเชื่อว่าแอปฯตัวนี้จะช่วยให้อสม.สามารถลดค่าใช้จ่ายและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"สิ่งสำคัญกว่านั้นเรายังมีโครงการอบรม อสม. ที่สูงอายุให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้มากขึ้น และเรายืนยันที่จะพัฒนาแอปฯ อสม.ออนไลน์ต่อไป จากเดิมที่สามารถให้ข่าวสาร ติดต่อสื่อสารกันได้ เราจะมีช่องทางใหม่ในการเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลเพื่อให้การทำงานของ อสม.พัฒนาไปอีกขั้น สามารถติดต่อในการรักษาได้อย่างทันท่วงที" นายสมชัย กล่าว

สำหรับการมอบรางวัลโครงการประกวดการใช้งานแอปฯ อสม.ออนไลน์ในครั้งนี้ นายสมชัย กล่าวว่า เอไอเอสจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณพี่น้องชาว อสม. ตัวรางวัลเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ แต่เรื่องที่สำคัญมากคือต้องการขอบคุณ อสม. ผู้เป็นจิตอาสาที่เสียสละทำงานด้านสาธารณสุขเพื่อคนไทยมาโดยตลอดนั่นเอง