ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ-รมว.สธ. ลงพื้นที่หลังชาวเมียนมาติดเชื้อ 5 คนจากเคสรับส่งของ ย้ำมีแผนรองรับ ป้องกันการระบาดโควิด ไม่มีทางเล็ดลอดกระบวนการคัดกรองโรคแน่นอน แต่ปัญหาอยู่ที่กลุ่มลักลอบเข้าเมือง ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันสอดส่องดูแล

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. บริเวณหน้าสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ เพื่อดูแลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบชาวเมียนมาติดเชื้อในพื้นที่แล้ว 5 คน จากเคสคนขับรถส่งของ

นายอนุทิน กล่าวว่า การลงพื้นที่บริเวณชายแดนอำเภอแม่สอดมาในวันนี้นั้น เพื่อมาดูความพร้อมในการรับมือการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจากการรับทราบ นับว่ามีแผนการรองรับอย่างดี และมีรถตรวจเชื้อพระราชทานถึง 5 คน คอยสนับสนุนการทำงาน

“ยืนยันว่า ทั้ง 5 คนที่ตรวจพบเชื้อนั้น มีแผนรองรับ ทั้งการควบคุม และรักษาโรค การป้องกันการระบาด หากเป็นการเข้าเมืองมาตาม ช่องทางปกติ ไม่มีทางเล็ดลอดกระบวนการคัดกรองโรคแน่นอน ปัญหาจึงอยู่ในกลุ่มที่ลักลอบเข้าเมือง ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบบุคคลน่าสงสัย ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับโอกาสในการระบาดจากทั้ง 5 เคสล่าสุด ตามหลักการแล้วมีน้อย เพราะเป็นผู้ป่วยไม่แสดงอาการ ในทางวิชาการ ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ จะมีโอกาสแพร่เชื้อน้อยกว่า แต่ทางกระทรวงฯ ไม่ได้ประมาท เพราะไปไล่ติดตามโรค และกักตัวผู้มีความเสี่ยงสูงแล้ว พร้อมขยายผลสอบสวนโรคต่อไป ประมาทไม่ได้ ส่วนภารกิจจากนี้ คือการรักษาผู้ป่วยจนหาย พร้อมกับดำเนินมาตรการต่างๆ ตามแผนที่กำหนดไว้ แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเช่นกันขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับประชาชนขอให้ช่วยกันสวมหน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างตามความจำเป็น ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ขอชื่มชม และเป็นกำลังใจในการทำงาน ทางกระทรวงฯ จะดูแลสนับสนุนอย่างสุดความสามารถ