ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยกรณี สสจ.พัทลุง พบแรงงานเมียนมาติดโควิด-19 ด้าน ผอ.กองโรคติดต่อฯ ชี้ยังไม่ถือเป็นเคสติดในประเทศ เหตุสอบสวนโรคเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ติดเชื้อรายเก่า เพราะพบสารพันธุกรรมเชื้อน้อยมาก รอยืนยันเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ตรวจพบแรงงานต่างชาติ ถูกจับในสภ.ป่าบอน 9 คน และตรวจเจอเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1 คน ว่า ข้อเท็จจริงสำหรับเรื่องนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งตรวจตรา และในขณะนี้ที่เรามีนโยบายว่าหากพบแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายจะต้องส่งตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกราย เคสนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา เมื่อไม่มีเอกสารเข้าเมืองจึงได้ส่งไปรพ.เพื่อตรวจหาเชื้อฯ ก็พบสารพันธุกรรมในปริมาณน้อย และจากการตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์จังหวัดตรัง ผลออกมาตรงกับผลตรวจของทางโรงพยาบาล คือเป็นสารพันธุ์กรรมเชื้อ คาดว่าไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้แล้ว ขณะนี้แรงงานต่างด้าวรายดังกล่าวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนคนอื่นๆ ก็อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง แต่จากการตรวจก็ไม่เจอเชื้อแต่อย่างใด

“ข้อเท็จจริง คือ สธ.ยังไม่ถือว่าแรงงานชาวเมียนมารายนี้เป็นผู้ติดโควิด-19ยืนยันของประเทศไทย เนื่องจากผลการตรวจเชื้อจากรพ.ในพื้นที่และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์จ.ตรัง ตรงกันว่ามีสารพันธุกรรมในปริมาณน้อยมากๆ บวกกับรายนี้ให้ประวัติว่าเดินทางเข้าไทยผ่านด่านอ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อ 2 เดือนก่อนซึ่งเป็นช่วงเดือนสิงหาคมที่ประเทศเมียนมามีการระบาดของโรคโควิด-19แล้ว จึงจำเป็นจะต้องเจาะเลือดรายนี้ส่งตรวจเพิ่มเติมเพื่อดูภูมิคุ้มกัน จึงจะสามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายเก่าที่ติดมานานแล้วหรือติดใหม่” นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า โอกาสที่เมียนมาที่พัทลุงจะเป็นผู้ติดเชื้อรายเก่านานแล้วมีสูง เนื่องจากผลแล็ป 2 แห่งยืนยัน ตรงกันว่า เจอสารพันธุกรรมเชื้อในปริมาณน้อยมากๆ ไม่มีอาการป่วยใดๆ อีกทั้ง คนอื่นๆที่อยู่รอบๆข้างเกือบ 10 คนไม่มีใครตรวจเจอเชื้อเลย ซึ่งกรณีนี้เทียบเคียงได้กับกรณีหญิงไทยที่กลับจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE)ก่อนหน้านี้ที่มีการตรวจเจอเชื้อเช่นกัน แต่ เมื่อนำไปเพาะเชื้อก็ไม่ขึ้นแสดงว่าเป็นซากเชื้อและเมื่อตรวจเลือดก็เจอภูมิคุ้มกัน แสดงว่าเคยติดเชื้อมาก่อนนานแล้ว ประเทศไทยก็ไม่ได้รายงานผู้หญิงรายนี้ว่าเป็นผู้ติดโควิด-19ยืนยันแต่อย่างใด กรณีเมียนมาที่พัทลุงก็เช่นกันขอให้รอผลรวจเลือดก่อนที่จะสรุปว่าเป็นผู้ติดเชื้อยืนยันหรือไม่

เรื่องที่เกี่ยวข้อง