จับตาเคลื่อนงาน บิ๊กโปรเจ็กต์ สธ.จาก“หมอชลน่าน”สู่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน”

กองบรรณาธิการ Hfocus

ความหวังคนสาธารณสุข ในยุคผลัดเปลี่ยนรัฐมนตรี จาก “ชลน่าน” สู่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน”

ล่าสุดวันที่ 28 เมษายน 2567 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี

โดย “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” พ้นจากรองนายกรัฐมนตรี และนั่งรมว.สาธารณสุขคนใหม่แทน ส่วนนพ.ชลน่าน ยังคงเป็น ส.ส. จังหวัดน่านตามเดิม

กลายเป็นว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ผู้บริหารฝ่ายการเมืองในยุครัฐบาลเพื่อไทยถึง 2 คนในเวลาประมาณ 8 เดือน มีรมว.สาธารณสุขแล้ว 2 คน นับตั้งแต่ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ได้รับการแต่งตั้ง และโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา และล่าสุดวันที่ 28 เมษายน 2567 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” เป็นรมว.สาธารณสุข คนใหม่

(พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งรมต. "ชลน่าน" หลุด รมว.สธ. ขณะที่ "สมศักดิ์" แทน)

เกิดคำถามวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูว่า เป็นเพราะผลงานเรือธงของรัฐบาลเพื่อไทยไม่เข้าตา หรือไม่รวดเร็วอย่างที่คิดหรือไม่ หรืออาจเป็นเพราะประเด็น “ยาบ้า 5 เม็ด” ที่หมอชลน่าน เจอศึกหนักมาตลอด แม้จะมีการแจกแจงเหตุผล เจตนาถึงความจำเป็นในการบำบัดรักษา และดึงผู้เสพที่ไม่ใช่ผู้ค้า ให้ออกจากวงโคจรผู้ค้ารายย่อยก็ตาม กลายเป็นว่า หมอชลน่าน ทำอะไรก็ไม่ถูกใจไปหมด แม้จะเรียกว่า เป็นแกนนำหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ที่โดนมาเยอะก่อนจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม

30 บาทรักษาทุกที่ฯ ทำอย่างไรให้เป็นภาพจำเหมือนสมัยทักษิณ

ส่วนเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่ผ่านมาเห็นได้ว่า มีการเดินหน้าตามไทม์ไลน์ตั้งแต่ระยะแรก มาจนถึงระยะที่สอง และจะเข้าสู่ระยะที่สาม ในเดือนพฤษภาคมนี้ ครอบคลุม 45 จังหวัด และตามแผนของรัฐบาลต้องการให้ครอบคลุมทุกจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯ ภายในปี 2567 ซึ่งแน่นอนว่า ทุกอย่างกำลังเดินไป แต่ที่เป็นจุดสำคัญ คือ งบประมาณในการบริหารจัดการ และการเชื่อมระบบข้อมูลดิจิทัลเฮลธ์ต่างๆ จะทำได้มากน้อยแค่ไหน กับท่ามกลางกระแสความปลอดภัยทางไซเบอร์ ว่าจะมีการจัดการอย่างไรต่อไป

ความหวังในการสานต่อตกไปอยู่ที่ รมว.สาธารณสุขคนใหม่ อย่าง “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ตอนดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกฯ และประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ปลื้มที่นายกฯเศรษฐา ให้ความสำคัญกับโครงการ “โคแสนล้าน” หวังช่วยเกษตรกร และเมื่อต้องข้ามมาฝั่งกระทรวงหมอ จึงถูกจับตามองว่า จะขับเคลื่อนบิ๊กโปรเจ็กต์ที่รออยู่ได้มากน้อยแค่ไหน

ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันการเชื่อมระบบทุกพื้นที่ในประเทศไทยให้สามารถใช้ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว การจัดงบประมาณให้แต่ละพื้นที่เพิ่มเติมอย่างเพียงพอ และในอนาคตกับการเชื่อมระบบครั้งใหญ่อีก 2 กองทุนที่สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวได้ด้วยเช่นกัน ทั้งประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ

จึงเป็นอีกประเด็นที่ต้องรอวัดผลงาน “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” กับการขับเคลื่อนนโยบายเรือธงของรัฐบาลจากที่เคยสำเร็จอย่างท่วมท้นในยุคทักษิณ “30 บาทรักษาทุกโรค” จะทำอย่างไรให้ “30 บาทรักษาทุกที่ฯ” กลายเป็นภาพจำอีกครั้ง

(ข่าวเกี่ยวข้อง: ส่องประวัติ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สธ. หวนคืนกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง)

บุคลากรสาธารณสุขคาดหวัง และรอ

ไม่เพียงเท่านี้ ประเด็นกระทรวงหมอ ยังมีเรื่องที่รอการสานต่ออีกมาก เห็นได้จากนโยบาย 13 ประเด็น และ 10 ประเด็นควิกวิน โดยเฉพาะนโยบายสร้างขวัญกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ต่างเฝ้ารอมาทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้า ค่าตอบแทน ภาระงาน ฯลฯ และความหวังในการผลักดันกฎหมายแยกออกจาก สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่ หมอชลน่าน ประกาศว่า จะชัดเจนในปี 2568 จะมีการสานต่อหรือไม่ การจัดระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิจะเป็นอย่างไร การให้ความสำคัญบุคลากรทุกสายงานทุกวิชาชีพ

เอาง่ายๆ หากไปถามบุคลากรสาธารณสุข ส่วนใหญ่ต่างเฝ้ารอ ประเด็นความก้าวหน้าทุกสายงาน ค่าตอบแทนเหมาะสมภาระงาน ค่าเสี่ยงภัยโควิด การบรรจุข้าราชการโควิดรอบสองที่ยังรอกันอยู่ จะมีการผลักดันโดยฝ่ายการเมืองมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่