ศบค.ห่วง! โควิดเดลตากระจายเร็ว ไทยอาจติดเชื้อถึงหมื่นรายสัปดาห์หน้า ส่วนวัคซีน “ผู้สูงวัย-โรคเรื้อรัง” ยังไม่ถึงเป้า

ศบค.เผยข้อมูลแพทยสมาคมฯ ชี้เดลตากระจายเร็ว! ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเผยอาจเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ 2 เท่าใน 2 สัปดาห์ ขณะที่ไทยอาจเห็นตัวเลขป่วยเป็นหมื่นราย ย้ำชัด! ต้องฉีดวัคซีน “ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” หลังตัวเลขฉีดวัคซีน 2 กลุ่มเป้าหมายยังน้อย ล่าสุดจุดฉีด ทปอ. -ศูนย์ฉีดกลางบางซื่อ-จุดฉีดผู้ประกันตนม.33 ปรับแผนฉีดกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม!

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 7 ก.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวถึงกรณีการระบาดโควิดสายพันธุ์เดลตา ว่า วันนี้การรายงานผู้ติดเชื้อจากกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัดเท่ากัน 50% เห็นได้ชัดว่า มีการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสีแดง ไปยังต่างจังหวัด ทำให้มีการกระจายการติดเชื้อไป 40 จังหวัด ไปภาคเหนือ 11 จังหวัด ภาคกลางและตะวันออก 9 จังหวัด ภาคตะวันอกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด และขณะนี้มีการรายงานพบสายพันธุ์เดลตาในกทม.มาก จึงคาดเดาว่า การไปต่างจังหวัดก็จะเป็นสายพันธุ์เดลตาเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อัลฟาพบน้อยลง และเดลตาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกทม.

สายพันธุ์เดลตา พบเพิ่มขึ้น อย่างประเทศอังกฤษพบมากในประชากรผู้ติดเชื้อเกิน 90% สหรัฐพบเพิ่ม 20% และมีรายงานพบว่าคนรับวัคซีนเข็ม 1 และ 2 ยังรับสายพันธุ์เดลตาได้ โดยรายงานในอังกฤษพบผู้ติดเชื้อ 92,029 ราย ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดลตา โดย 20,000 รายในจำนวนนี้มีรายงานรับวัคซีนเข็ม 1 แล้ว และมีผู้รับวัคซีนเข็ม 2 และพบการติดเชื้อที่ 7,235 ราย โดยภาพรวมคือ คนที่ฉีดวัคซีนมี 8% ที่มีอาการหนักจนนอนรพ. นอกนั้นไม่รุนแรงจนต้องนอนรพ. ดังนั้น ขอย้ำว่า กลุ่มผู้สูงอายุ และป่วยโรคเรื้อรังจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงมาก จึงต้องเร่งให้วัคซีนโควิด แม้เพียงเข็มแรกก็จะช่วยลดการป่วยหนักและการตาย

ทั้งนี้ แพทยสมาคมฯ มีความเป็นห่วงกรณีสายพันธุ์เดลตา โดยเราพบประมาณเดือนมิ.ย.2563 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอเมริกาพบว่า เดลตาแพร่กระจายได้เร็ว โดยจะเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ 2 เท่าภายใน 2 สัปดาห์  ซึ่งตอนนี้เราเห็นผู้ติดเชื้อจากพัน เป็นสองพัน ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสัปดาห์หน้าอาจขึ้นเป็น 1 หมื่นรายได้ จึงต้องขอเน้นย้ำมาตรการส่วนตัว เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ 

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงจำนวนการฉีดวัคซีนโควิด19 ว่า จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นวันนี้ 269,653 โดส รวมเป็น 11,328,043 โดส ซึ่งเป้าจริงๆ อยากฉีดให้ได้วันละ 3-5 แสนโดส ซึ่งยังน้อยกว่าแผนที่วางไว้ สำหรับรายละเอียดกลุ่มเน้นย้ำ ต้องเพิ่มการฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวเลขเป้าหมายจำนวน 12.5 ล้านคน ฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้ว 1,616,977 คน คิดเป็นร้อยละ 12.9 เข็มที่ 2 ฉีดไป 106,274 คน คิดเป็นร้อยละ 0.9  ส่วนผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ตัวเลขเป้าหมายมีจำนวน 5,350,000 คน โดยเข็มที่ 1 ฉีดไปแล้ว 835,915 คน คิดเป็นร้อยละ 15.6 และเข็มที่ 2 ฉีดไป 187,586 คน คิดเป็นร้อยละ 3.5

ทั้งนี้ ทางสำนักอนามัย กทม.มีการปรับแผนฉีดวัคซีนที่ผ่านมา โดยเน้นตามนโยบายระดมฉีดให้ผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งเพิ่มไปอีกประมาณ 1 หมื่นกว่าคน อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดฉีดของ ทปอ. จุดฉีดในมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ หรือจุดฉีดของผู้ประกันตนม.33 ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า การฉีดวัคซีนในจุดเหล่านี้ ยังเป็นประชากรส่วนใหญ่พอสมควร แต่ไม่เพิ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มโรคเรื้อรังตามแผน ดังนั้น สัปดาห์นี้จะมีการเน้นย้ำให้เป็น 2 กลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org