ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้เชี่ยวชาญย้ำ ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตแล้ว ไม่แพร่เชื้อ! เคยให้ข้อมูลหลายครั้ง ล่าสุดราชวิทยาลัยพยาธิฯ เตรียมทำหนังสือแนะนำอีกในสัปดาห์นี้ ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิในกก.โรคติดต่อแห่งชาติ เผยเป็นเรื่องหดหู่ใจ รัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉย ต้องเร่งหาคำตอบ ชี้การเสียชีวิตโควิดจะไม่ฉับพลันทันที เพราะโควิดจะจู่โจมที่ปอด การเสียชีวิตทันทีส่วนใหญ่มาจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

ตามที่มีผู้เสียชีวิตที่รอการดำเนินการอยู่บนท้องถนน สร้างความหดหู่ และเกิดคำถามในการดำเนินการของภาครัฐนั้น

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า การพบผู้เสียชีวิตตามท้องถนนถือเป็นภาพที่น่าหดหู่ เรื่องนี้รัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉยต้องเร่งหาคำตอบ ควรนำศพทั้ง 3 ศพ เร่งชันสูตร เพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้อง ลดความตระหนก ตื่นกลัว โดยส่วนตัวเห็นว่า การเสียชีวิตของโควิด จะไม่ฉับพลันทันที เพราะโควิดจะจู่โจมที่ปอด การเสียชีวิตแบบทันทีส่วนใหญ่จะต้องมีอาการของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมากกว่า

ต้องมีการพิสูจน์ ด้วยการสว็อปศพ เพื่อความชัดเจน เนื่องจาก อาการของปอดบวม จะไม่ทำให้เสียชีวิตทัน โดยปกติของผู้เสียชีวิตจากโควิด พบอาการหัวใจร่วมด้วยประมาณ 4 % การเสียชีวิตจากโควิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แม้เพิ่มจำนวนมากขึ้น บางวัน 100 ศพ แต่ก็ไม่นานจะเกิดปัญหาศพค้างในรพ. เพราะตามปกติหากวัดที่มีจำนวนมาก ต่างช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตไปเผา ศพก็จะไม่ค้างในรพ. เพราะผู้ชีวิต 1 คน ต่างกระจายไปภูมิลำเนาของตนเอง ไม่ได้ไปที่วัดเดียวกันทั้งหมด แปลกใจมาก อยากให้ทาง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ามาดูในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ต้องออกมาช่วยคน เพราะลำพังครอบครัว มีผู้เสียชีวิตก็เศร้าใจมาก การจัดงานศพ หรือ เผาตามพิธีเล็กๆน้อยๆก็เพื่อระลึกถึงคนตาย เพียงแต่แค่ต้องดำเนินการให้เร็วเท่านั้น เพราะความร้อน1,000 องศาเซลเซียส สามารถทำลายร่างกายเรา และเชื้อได้หมด

ด้าน ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย กล่าวว่าขณะนี้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะผ่านมาแล้ว เกือบ 1 ปี การจัดการกับศพผู้เสียชีวิต ยังคงมีความเข้าใจผิด ทั้งที่ศพไม่มีความสามารถในการแพร่เชื้อกับคนได้ปกติ และศพที่เสียชีวิตจากโควิด ก็ถูกบรรจุในถุงซิปเรียบร้อย การจัดการศพสามารถทำได้อย่างปกติ โดยที่พระสงฆ์ และ สัปเหร่อ ไม่ต้องสวมชุดพีพีอี เพราะศพไม่มีเชื้อ อีกทั้งความร้อนสูงในการเผาศพ ประมาณ 5,000-6,000 องศาเซลเซียส ก็สามารถทำศพ และฆ่าเชื้อได้หมดแล้ว การสวมชุดพีพีอี ไม่มีความจำเป็นเลย เรื่องนี้ได้มีการชี้แจง ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตั้งแต่ปีที่แล้ว และขณะนี้ทางราชวิทยาลัยพยาธิฯก็กำลังจะทำหนังสือ คำแนะนำและความเข้าใจที่ถูกต้องออกในสัปดาห์นี้

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org