ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

เปิดข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19  ในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ข้อมูล ณ วันที่ 22 ก.ค. 64 พบสัดส่วนเพิ่มขึ้น! แต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย 50% ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ  มีเพียงบางจังหวัด อย่าง กรุงเทพฯ ฉีดผู้สูงอายุแล้วเกิน 50%  พร้อมเปิดตัวเลขฉีดวัคซีน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม

หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค.  กลับมามุ่งเน้นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่ 2 ต่อจากบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง (โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วน)  หลังจากก่อนหน้านี้เน้นการฉีดแบบปูพรมทั่วประเทศ เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันทั้งประเทศ  แต่ด้วยความที่วัคซีนมีจำกัด ทำให้ไม่สามารถทำได้ และจำเป็นต้องกลับมามุ่งฉีดวัคซีนให้ “2 กลุ่มเสี่ยง”  เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวเมื่อรับเชื้ออาการจะรุนแรงและเสียชีวิตสูง

โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดใน 2 กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากรวมแล้วฉีดเข็มแรกไปเพียง 35.83% ใน 77 จังหวัด  โดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดหนัก หรือพื้นที่สีแดงเข้มที่ก่อนหน้านี้กำหนดไว้ 10 จังหวัด (กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ นราธิวาส  ปัตตานี ยะลา และสงขลา)

ผู้สื่อข่าว Hfocus  ได้ตรวจสอบข้อมูล MOPH Immunization Center (IC) ผ่านระบบ “หมอพร้อม” ณ เวลา 12.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 ฉีดวัคซีนสะสมจำนวน    16,057,473   คน  โดยเป็นเข็มที่ 1 ตัวเลขสะสมอยู่ที่   12,393,906 คน  และเข็มที่ 2 ตัวเลขสะสมอยู่ที่   3,663,567  คน 

แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า  กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ให้ครอบคลุม 50% ภายใน 1 เดือน  ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลการได้รับวัคซีนป้องกันโควิดใน 2 กลุ่มเสี่ยง ข้อมูล ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 พบว่า ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับวัคซีนตามกลุ่มจังหวัด มี 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ระนอง และภูเก็ต ได้รับวัคซีนมากกว่า 50%  ขณะที่อีก 9 จังหวัด มีชลบุรี สุราษฎร์ธานี นนทบุรี ตาก ระยอง สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี และพังงา ผู้สูงอายุได้รับวัคซีนประมาณ 26-50% ส่วนที่เหลือ 65 จังหวัด ผู้สูงอายุได้รับวัคซีนแล้วน้อยกว่าหรือเท่ากับ 25%

ขณะที่ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคที่ได้รับวัคซีน ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564  มี 3 จังหวัด คือ ระนอง ปทุมธานี และสมุทรปราการ กลุ่มนี้ได้รับวัคซีนแล้วมากกว่า 50%  ส่วนอีกประมาณ 9 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ตาก สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี กรุงเทพฯ พังงา นนทบุรี และภูเก็บ กลุ่มนี้ได้รับวัคซีน 26-50% นอกนั้นได้รับวัคซีนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 25%  

โดยภาพรวมมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ข้อมูลถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้วคิดเป็นร้อยละ 20.44  เพิ่มขึ้นจากเดิม 0.47%    ส่วนกลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังฉีดวัคซีนแล้วร้อยละ 19.24 เพิ่มขึ้นจากเดิม 0.41%   

ภาพจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

เมื่อแยกข้อมูลเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด   13 จังหวัด ซึ่งเพิ่มเติมจากของเดิมอีก 3 จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา  ข้อมูลถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2564  ยังไม่ครบเดือน  แยกได้ดังนี้ 

** การฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ภาพรวมฉีดไปแล้วร้อยละ 20.44    (ข้อมูลถึงวันที่ 22 ก.ค.64)   ประกอบด้วย

1.กรุงเทพมหานคร     ฉีดไปแล้ว 1,106,454 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 445,744 คน

2. นนทบุรี                  ฉีดไปแล้ว 239,380 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 170,234 คน

3. ปทุมธานี                ฉีดไปแล้ว 171,441 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 105,042 คน

4. นครปฐม                 ฉีดไปแล้ว 161,397 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 127,327 คน

5. สมุทรสาคร             ฉีดไปแล้ว 89,682 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 57,004 คน

6. สมุทรปราการ          ฉีดไปแล้ว  210,144  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  131,900  คน

7. นราธิวาส                 ฉีดไปแล้ว 94,771  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  77,645 คน

8. ปัตตานี                    ฉีดไปแล้ว 88,733  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  73,970 คน

9. ยะลา                       ฉีดไปแล้ว 65,127 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  51,028 คน

10. สงขลา                   ฉีดไปแล้ว 227,358   คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  175,859 คน

11. ชลบุรี                     ฉีดไปแล้ว 213,135   คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  155,108 คน

12.  ฉะเชิงเทรา             ฉีดไปแล้ว 125,029   คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  94,021 คน

13.  พระนครศรีอยุธยา    ฉีดไปแล้ว 153,319 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 126,181 คน

ภาพจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

** การฉีดวัคซีนผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง  ฉีดครอบคลุมร้อยละ 19.24  (ข้อมูลถึงวันที่ 22 ก.ค.64)   ประกอบด้วย

1.กรุงเทพมหานคร     ฉีดไปแล้ว 1,347, 294  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 930,409 คน

2. นนทบุรี                 ฉีดไปแล้ว 111,345 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 61,325 คน

3. ปทุมธานี               ฉีดไปแล้ว 83,021 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 34,204 คน

4. นครปฐม                ฉีดไปแล้ว 84,317 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 66,766 คน

5. สมุทรสาคร            ฉีดไปแล้ว 95,956 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 68,792 คน

6. สมุทรปราการ         ฉีดไปแล้ว  94,664  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  25,510  คน

7. นราธิวาส                ฉีดไปแล้ว  62,661  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 53,966   คน

8. ปัตตานี                   ฉีดไปแล้ว 51,595  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  45,272 คน

9. ยะลา                      ฉีดไปแล้ว 48,169 คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  42,362 คน

10. สงขลา                  ฉีดไปแล้ว 118,557   คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  101,286 คน

11. ชลบุรี                     ฉีดไปแล้ว  163,499   คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก  126,627  คน

12.  ฉะเชิงเทรา             ฉีดไปแล้ว  61,939   คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 45,548    คน

13.  พระนครศรีอยุธยา     ฉีดไปแล้ว 80,589  คน ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 70,017  คน

แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า สิ่งสำคัญตอนนี้ในหลายพื้นที่ยังพบว่ามีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดใน 2 กลุ่มเป้าหมายไม่ได้มากนัก ซึ่งขณะนี้ทางศบค. กระทรวงสาธารณสุข  ได้แจ้งไปยังจังหวัดต่างๆ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ความสำคัญกับ 2 กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวก่อน จากนั้นจึงจะเป็นประชาชนทั่วไป เนื่องจากทราบมาว่า ในพื้นที่ก็ยังมีปัญหาประชาชนกลุ่มอื่นๆมีความต้องการฉีดวัคซีนอยู่ แต่ด้วยวัคซีนยังมีจำกัด จึงต้องให้ 2 กลุ่มเสี่ยง หลังจากนั้นเมื่อมีวัคซีนเข้ามาเรื่อยๆก็จะมีการขยายกลุ่มอื่นๆต่อไป

 

ข่าวเกี่ยวข้อง

: จับทิศวัคซีนโควิด “2 กลุ่มเสี่ยง” มิ.ย.ไม่ถึงเป้า! พร้อมเผยตัวเลขจองและฉีดวัคซีน 10 จ.ระบาด

ราชกิจจาฯ ล็อกดาวน์เพิ่ม! 3 จังหวัด “ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา”

**********************

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org