ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์ฯ ออกคำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็ก และวัยรุ่น เผยรายละเอียดการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิฯ และลดความเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกคำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับเด็ก และวัยรุ่น (ฉบับที่ 4) สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดในเด็กอายุ 5 -<12 ปี และวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป  ใจความดังนี้

ในสถานการณ์ที่การระบาดของโรคโควิด สายพันธุ์เดลตา ยังคงมีอยู่ ปรากฎมีการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน(Omicron) แพร่อย่งรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก และเริ่มพบในประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งคาดว่าจะเกิดการระบาดระลอกใหม่ในเวลาอันใกล้นี้ เมื่อมีการเปิดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเริ่มมีการเปิดโรงเรียนและสถานศึกษาสำหรับเด็กและวัยรุ่น การฉีดวัคซ๊นป้องกันโรคโควิด ถือเป็นมาตรการที่สำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ทบทวนข้อมูลใหม่ด้านระบาดวิทยา ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิดในเด็กและวัยรุ่น มีคำแนะนำใหม่เพิ่มจากคำแนะนำฉบับที่ 3 วันที่ 22 กันยายน 2564 ดังนี้

-เด็กและวัยรุ่น เพศชายอายุ 12 ปีขึ้นไป เดิมให้ฉีดวัคซีนชนิด mRNA Pfizer BioNTech เข็มแรก ส่วนเข็มที่ 2 ให้ชะลอไว้ก่อน เพิ่มคำแนะนำให้ฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3-12 สัปดาห์ โดยแนะนำระยะห่าง 8-12 สัปดาห์ ซึ่งจะดีกว่า 3-4 สัปดาห์ (การเพิ่มระยะห่างระหว่างเข็ม 1 และเข็ม 2 มีผลดี ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันหลังเข็ม 2 สูงขึ้น ระยะเวลาป้องกันนานขึ้น และอาจลดความเสี่ยงในการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้
-เด็กอายุ 5 -<12 ปี  ให้ฉีดวัคซีนชนิด mRNA Pfizer BioNTech สูตรสำหรับเด็ก ขนาด 10 ไมโครกรัม ปริมาณ 0.2 มล.เข้ากล้าม 2 ครั้งห่างกัน 3-12 สัปดาห์ โดยระยะห่าง 8-12 สัปดาห์จะดีกว่า 3-4 สัปดาห์ เพราะได้ระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า

ข้อพิจารณา รูปแบบและชนิดของวัคซีน

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้เพิ่มข้อบ่งใช้ วัคซีนโควิด ในเด็กให้ใช้ได้ในเด็กอายุ  5 ปี -11 ปี (จากเดิมที่ให้ใช้ในอายุ 12 ปีขึ้นไป เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564 และข้อสรุปจากการประชุมคณะกรรมการ ACIP เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ให้ใช้วัคซีนที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. สำหรับกลุ่มอายุ 5-11 ปี ตามขนาดและข้อบ่งใช้ ดังนั้น ในประเทศไทยในขณะนี้ ( ณ วันที่ 23 ธ.ค.2564) มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด ชนิดที่ได้รับการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้ใช้ในเด็กและวัยรุ่น ได้แก่
1.สำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุ 12 ถึงน้อยกว่า 18 ปี คณะกรรมการอาหารและยารับรองให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ชนิด mRNA สองชนิด ได้แก่
1.1 วัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ของไฟเซอร์ ขนาด 30 ไมโครกรัม 0.3 มล. ฉีดเข้ากล้าม 2 โดส ห่างกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์
1.2 วัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ของโมเดอร์นา ขนาด 100 ไมโครกรัม 0.5 มล.ฉีดเข้ากล้าม 2 โดสห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์
2.สำหรับเด็กอายุ 5 ถึง <12 ปี   อย. รับรองให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิดชนิด mRNA ของไฟเซอร์ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ขนาด 10 ไมโครกรัม 0.2 มล. ฉีดเข้ากล้าม 2 โดส ห่างกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ซึ่งวัคซีนโควิดชนิด mRNA ของไฟเซอร์ ที่ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในเด็กอายุระหว่าง 5 ถึง <12 ปี   โดยองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐ และอย. ภายใต้ภาวะฉุกเฉินดังกล่าวมีความแตกต่างจากวัคซีนที่ใช้ในเด็กโตและผู้ใหญ่

รายละเอียดอื่นๆ ดังนี้ 


 

ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org