ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"สาธิต" รมช.สาธารณสุข รับข้อคิดเห็น กมธ.วุฒิสภา เป็นห่วงปมถ่ายโอน รพ.สต. ไปอบจ. หากไม่พร้อมหวั่นกระทบประชาชน ยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด มอบรองปลัดสธ. รวบรวมทุกประเด็น ปัญหา อุปสรรค จำนวนบุคลากรที่จะไป และไม่ไป ก่อนนำเสนอกรรมาธิการฯ อีกครั้ง

ตามที่คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข(กมธ.)วุฒิสภา  มีการประชุมวาระพิจารณาแนวทางนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) โดยได้เชิญนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เข้าร่วมหารือ ซึ่งได้เสนอให้การถ่ายโอนรพ.สต.ครั้งนี้ค่อยเป็นค่อยไป และทำลักษณะแบบแซนด์บ็อกซ์ (SandBox)   จากนั้นทำการประเมินภายหลังถ่ายโอน  2-3 ปี หากดีก็สามารถถ่ายโอนไปได้หมดนั้น

(ข่าวเกี่ยวข้อง :  กมธ.วุฒิสภา ถกร่วม "สาธิต" หารือทางออกถ่ายโอน รพ.สต.ไป อบจ.)

ล่าสุดวันที่ 4 มี.ค. 2565  นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  ให้สัมภาษณ์ Hfocus ถึงเรื่องนี้ ว่า ในการประชุมหารือทางคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้พิจารณากรณีการถ่ายโอน รพ.สต. โดยมองว่า อาจพบปัญหาในแง่กระบวนการถ่ายโอนต่างๆ   อาทิ  จำนวนบุคลากรที่จะไป หรือไม่ไป  ประเด็นเรื่องเนื้องาน งบประมาณการจัดสรรของท้องถิ่นเอง และในส่วนของกระทรวงฯ วงเงินต้องสอดคล้องกับบุคลากรที่จะไป  ซึ่งตรงนี้ต้องเตรียมให้พร้อมในกรอบระยะเวลาภายในเดือน ต.ค. 2565 นี้ 

นายสาธิต กล่าวว่า กมธ.วุฒิสภา ได้มองเห็นปัญหา แต่ไม่ได้ติดขัดกฎหมาย ซึ่งมองว่า หากมีความจำเป็นที่ต้องถ่ายโอนไปนั้น อาจไม่ต้องทำครบ 100 เปอร์เซ็นต์ทันที เนื่องจาก กมธ.วุฒิสภา บางท่านมองว่า   ในเรื่องข้อกฎหมายมีการตีความว่า หลักการเป็นอย่างไร ข้อยกเว้นเป็นอย่างไร  ข้อเป็นห่วงของ กมธ.วุฒิสภา เราก็รับมา ซึ่งทางฝั่งกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดสธ. เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขฯ ที่มีท่านเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์  เป็นประธาน ได้ทราบถึงเรื่องนี้  โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการลงทะเบียนบุคลากรในรพ.สต.ว่า ใครจะไป หรือไม่ไป  

"ล่าสุดผมได้พูดในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงอีกครั้งหนึ่งว่า เราเห็นด้วยในหลักการกระจายอำนาจ แต่เราต้องทำภายใต้สถานการณ์ที่กระบวนการจะไม่เป็นปัญหา และต้องให้ผู้รับโอนมีความพร้อม ทั้งในแง่เนื้องานที่ต้องไปปฎิบัติ อย่างงานปฐมภูมิ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องต้องไร้รอยต่อ ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ท่านรองปลัด นพ.สุระ รวบรวมสภาพปัญหาทั้งหมด รวมทั้งข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากนั้นให้นำเสนอปลัดสธ. และรายงานผม เพื่อนำเสนอ กมธ.วุฒิสภา อีกครั้ง แต่นอกจากเรื่องข้อกฎหมายแล้ว ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของหัวหน้ารัฐบาลด้วยว่า จะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไร" รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขที่จะรวบรวมข้อมูลตรงนี้ มีกรอบระยะเวลาดำเนินการหรือไม่  นายสาธิต กล่าวว่า มอบหมายให้ทำเร็วที่สุด ซึ่งรองปลัดสธ.กำลังดำเนินการอยู่

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากมีการถ่ายโอนในช่วงที่โควิดกำลังระบาด การทำงานปฐมภูมิจะส่งผลกระทบหรือไม่ อย่างไร  นายสาธิต กล่าวว่า  เป็นข้อกังวลส่วนหนึ่ง ว่า ถ้าช่วงสถานการณ์แบบนี้จะเป็นปัญหาหรือไม่ในการปฏิบัติหน้าที่ และการควบคุมโรคระบาด ซึ่งก็ต้องมีการพิจารณา และเตรียมความพร้อมทั้งหมด
 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org