ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาธิการ ก.พ. ลงนาม 10 ก.พ. 66 ส่งหนังสือเวียนถึงกระทรวง กรม จังหวัดทั่วประเทศ กำชับแนวทางการใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการ ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง  พร้อมระบุ 3 แนวทางดำเนินการ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการแชร์หนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ลงนามโดย นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการ ก.พ.  เรื่อง การกำชับให้ใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยส่งเรื่องเป็นหนังสือเวียนไปยังกระทรวง กรม และทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งแนบแนวทางการใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง

โดยระบุว่า ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๕๐๕/ว ๒๑๖๙ ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๔ แจ้งเวียนให้ส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔ ที่ได้เห็นชอบตามมติ ก.พ. ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๔ ที่เห็นว่า

กรณีที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่เหมาะสมของข้าราชการในเรื่องชู้สาว การล่วงละเมิดทางเพศ หรือการคุกคามทางเพศ รวมถึงการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการกระทำดังกล่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดวินัยและจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถือเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาที่ต้องเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาดำเนินการทางวินัยโดยเร็วด้วยการนำมาตรการทางการบริหารมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการโดยกำชับให้ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากผู้บังคับบัญชาละเลยไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่สุจริต ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

บัดนี้ได้ปรากฎข่าวทางสื่อมวลชนหลายกรณีว่ามีข้าราชการที่มีพฤติการณ์ในเรื่องอื่น ๆ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เช่น การเรียกรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง การอาศัยตำแหน่งหน้าที่ของตนเรียกรับผลประโยชน์ที่มิควรได้ ดังนั้น เพื่อให้ธำรงไว้ซึ่งเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการ ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินการของส่วนราชการ

จึงเห็นควรกำชับให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลให้ข้าราชการประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของคุณธรรม จริยธรรม และวินัย รวมทั้งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้นอย่างเคร่งครัด โดยได้แนบแนวทางการใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามสิ่งที่ส่งมาด้วยพร้อมนี้

ทั้งนี้ หากปรากฏว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดทางกฎหมายบ้านเมืองด้วย ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินคดีทางอาญาโดยเร็วต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดต่อไป

 

อนึ่ง  สำหรับแนวทางการใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง  (ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๑0๑๑/ว ๔ ลงวันที่ ๑o กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖)  โดยสามารถใช้มาตรการทางการบริหารมาดำเนินการแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ดังต่อไปนี้

๑. กรณีที่ข้าราชการผู้นั้นถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือถูกฟ้องคดีอาญา หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลทุโทษ ให้รีบดำเนินการ ดังนี้

(๑) กรณีมีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดตามข้อ ๗๘ ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๕๗ พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นพักราชการโดยเร็ว

(๒) กรณีที่มีเหตุที่อาจถูกสั่งพักราชการตาม (๑) และผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๕๗ พิจารณาเห็นว่าการสอบสวนหรือพิจารณา หรือการดำเนินคดีนั้น จะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว ให้พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการไว้ก่อนตามข้อ ๘๓ ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยเร็ว

๒. กรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นตามข้อ ๒ ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจำส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๕๗ พิจารณาสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นประจำกระทรวง ประจำกรม หรือประจำจังหวัด แล้วแต่กรณีเป็นการชั่วคราว โดยให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่เดิมโดยเร็ว

๓. กรณีที่ไม่มีเหตุที่จะสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฏ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. ๒๕๕๖ หรือสั่งให้ประจำส่วนราชการตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจำส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินโดยเร็ว เช่น การสับเปลี่ยนหมุนเวียนงาน การย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อื่น

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org