ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” ไม่หวั่นปมย้าย “หมอสุภัทร” กระทบฐานเสียงพรรคภูมิใจไทย เหตุทำงานตลอด เห็นชัดจากผลงานโควิดชัดเจน  ส่วนคณะกรรมาธิการทางกฎหมายฯ เชิญปลัดสธ. หารือนั้น ข้อเท็จจริงเชิญใครก็ควรไป เพราะไม่มีอะไรปิดบัง ต้องสื่อสารให้เข้าใจ ไม่ใช่หลบๆซ่อนๆ  

 

จากกรณีคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาล (ผอ.รพ.) จะนะ จ.สงขลา ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สะบ้าย้อย ทำให้ตัวแทนชาวบ้าน อ.จะนะ เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอพบกับนายอนุทิน และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดสธ. ให้ทบทวนคำสั่งย้าย แต่พบว่านายอนุทิน ไม่ได้เข้ากระทรวงฯ ตลอดเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้านจึงเดินทางไปยื่นหนังสือที่รัฐสภา และสำนักนายกรัฐมนตรีให้พิจารณารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามมาตรา 158  ว่า อาจเป็นการกระทำที่แทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำหรือไม่นั้น

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์  ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีนี้ ว่า  ตนมีภารกิจในฐานะรองนายกรัฐมนตรีควบคู่กับรัฐมนตรีฯ ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการอภิปรายมาตรา 152 คล้ายๆ อภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่ต้องลงคะแนนเสียง โดยเป็นการให้คำแนะนำ แม้จะไม่ลงคะแนน แต่การที่เราเป็นรัฐบาล และมีวาระให้ฝ่ายตรวจสอบเราก็ต้องมีการเตรียมตัว เพื่อตอบชี้แจงประชาชน ซึ่งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข เป็นเรื่องของทางการแพทย์ ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงหารือกันระหว่างผู้บริหารว่า หากเป็นเรื่องทางการแพทย์ ก็ควรให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มาตอบเรื่องนี้ จึงได้ท่านปลัด สธ. และท่านเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  (สปสช.) อธิบดีกรมควบคุมโรค และอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ไปชี้แจงทำให้ประชาชนได้รับความชัดเจนและมั่นใจได้

“ผมต้องทำงาน รับหน้าที่ปฏิบัติภารกิจต่างๆ หลายแห่ง ทำให้ไม่ได้เข้ากระทรวงฯช่วงที่ผ่านมา” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กังวลหรือไม่ที่ถูกนำเรื่องการโยกย้ายไม่เป็นธรรมว่า เกี่ยวกับการใช้อำนาจของรัฐมนตรีฯ ซึ่งอาจมีผลต่อฐานเสียงในช่วงจะเลือกตั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยตั้งมา 10 กว่าปีแล้ว เติบโตมาตลอด และ 4 ปีที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการสธ.และรองนายกฯ ตนก็ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง อย่างกระทรวงคมนาคมก็มีโครงการต่างๆมากมาย อย่างในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ก็เป็นเฟืองจักรสำคัญทำให้ประเทศเปิดประเทศได้เต็มรูปแบบ ทำให้คนไทยเดินทางไปต่างประเทศได้โดยมีภูมิคุ้มกันอย่างเข้มแข็ง ทำให้สถานการณ์โรคระบาดของไทยอยู่ในสภาวะควบคุมได้ คนมีภูมิคุ้มกันพอสมควร เศรษฐกิจพลิกฟื้น ทำให้นักลงทุนที่เดิมคิดจะย้ายฐานการลงทุน เปลี่ยนใจอยู่ประเทศไทยต่อมากกว่าร้อยละ 80 เพราะเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทย

เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ส่งหนังสือเรียก ปลัดสธ.,  นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12, นพ.สุภัทร และ นายรุ่งเรือง ระหมันยะ ผู้ร้องเรียน ประชุมร่วมกันในวันที่ 22 ก.พ. เพื่อพิจารณาปัญหาของคำสั่งย้าย นายอนุทิน กล่าวว่า นัดมาก็ดี ถ้านัดมาก็ไป อย่างกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เรียกตนไปชี้แจงเรื่องงบส่งเสริมสุขภาพ ตนก็ไปชี้แจง ท่านก็ยังขอบคุณตน ขอบคุณสธ. และสปสช. ที่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น  เรียกใครก็ไป เมื่อเรียกปลัดก็ต้องไป เพื่อไปชี้แจงให้เข้าใจกัน อย่าหลบๆ ซ่อนๆ

 

เมื่อถามต่อว่าที่ผ่านมาได้ทำความเข้าใจกันบ้างหรือไม่ เพราะดูเหมือนเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นนอกกระทรวงฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ความเข้าใจง่ายนิดเดียว คือคำว่าธรรมาภิบาล ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเค่รงครัด การลงนามคำสั่งย้ายก็อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ใช่ใครก็คิดได้ไม่ฉะนั้นแต่ละกระทรวงฯ ก็ไม่ต้องมีปลัด ไม่ต้องมีอธิบดี ส่วนคำที่กล่าวว่า สธ.ไม่มีธรรมาภิบาล ต้องถามว่า ไม่มีตรงไหน เพราะสธ.ไม่ทำอะไรที่นอกกรอบ ตนเข้ามา 4 ปีนี้ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ

 

“สมัยที่จะซื้อ ATK  ช่วงโควิดระบาดทำให้มีข้อยกเว้นในการซื้อ ผมเป็นคนบอกในที่ประชุมว่า อย่าจำเพาะเจาะจงยี่ห้อ เพราะอย.อนุมัติมากว่า 50 ยี่ห้อ จึงเลิกเรื่องนั้นไป ถามว่านี่เป็นธรรมาภิบาลหรือไม่ เพราะโปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนที่มีการซื้อราคาแพงๆ ทำโครงการต่างๆ ได้รับใบอนุญาตหรือไม่ ก็ต้องไปตรวจสอบ” นายอนุทินกล่าว

 

เมื่อถามว่ามีการตรวจสอบพื้นใดที่ที่มีการซื้อ ATK ราคาแพง นายอนุทิน กล่าวสั้นๆ ว่า ผู้สื่อข่าวเองก็รู้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องการสอบสวนของกรรมการสอบข้อเท็จจริง ยังเป็นความลับ โดยรัฐมนตรีจะทราบก็ตอนที่มีการพิจารณาในที่ประชุม อกพ. ถ้ามีความผิดก็จะมีโทษตามกฎหมาย

เมื่อถามว่ากรณีที่มีทีมส่วนของสธ.ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ รพ.จะนะ นั่นจะเป็นคำตอบให้กับชาวบ้านจะนะที่ถามว่า ทำไมถึงย้ายนพ.สุภัทรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีไม่มีสิทธิสั่งให้ไปตรวจสอบ และไม่เคยคุยเรื่องนี้กับปลัด ท่านก็จะคุยกับตนว่าวันนี้มีม็อบ ขอให้ตนอยู่ทำเนียบเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า และตนก็มีงานที่ทำเนียบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การถูกตรวจสอบเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกคนตามระบบราชการ แม้กระทั่งตน ถ้าทำไม่ได้ก็สามารถโดนท่านนายกฯ ตรวจสอบได้

 

“ ต้องทำอะไรที่มันดี อย่าทำอะไรที่ผิด และอย่าไปบอกว่าตัวเองดี กลองดี ต้องมีคนตีถึงดัง อย่าไปดังเอง กลองที่ดังเอง เป็นกลองอะไรก็ไม่รู้”  นายอนุทิน กล่าว