ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อย่าเชื่อ อย่าแชร์! ตามที่มีการเผยแพร่ประเด็นเรื่องกลอกตาตามภาพเคลื่อนไหวไปมา ช่วยฟื้นฟูสายตา ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีสื่อสังคมออนไลน์ โพสต์แนะนำให้กลอกตาตามภาพเคลื่อนไหวไปมา เพื่อช่วยฟื้นฟูสายตา ให้มองเห็นชัดขึ้นนั้น กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า การกลอกตาตามคลิปไม่สามารถช่วยฟื้นฟูสายตาเกี่ยวกับการมองเห็นได้ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของตาใช้กล้ามเนื้อตาเป็นหลัก ไม่ได้ใช้ประสาทตาเกี่ยวกับการมองเห็นเพื่อกลอกตา แต่การกลอกตาไปมาสามารถเป็นการบริหารกล้ามเนื้อตาได้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการกลอกตาบางชนิด หรือใช้เป็นการทดสอบการมองเห็นและมองตามภาพเคลื่อนไหวเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคบางชนิดโดยแพทย์ได้

แม้ว่าการกลอกตาตามภาพเคลื่อนไหวไปมา จะไม่ช่วยเรื่องการฟื้นฟูสายตาได้ แต่ก็ยังมีวิธีที่ช่วยดูแลดวงตาให้ห่างไกลโรคตา เป็นการถนอมดวงตาด้วยวิธีง่าย ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สายตาในการจ้องจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์หรือแท็ปเล็ตบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดจอประสาทตาเสื่อม ดังนี้ 1.กะพริบตาให้บ่อย เมื่ออยู่หน้าจอเพื่อป้องกันตาแห้ง 2.หากมีอาการตาแห้งควรใช้น้ำตาเทียม เพื่อลดการระคายเคืองตา 3.ควรพักสายตาเป็นระยะทุก 20-30 นาที ให้พักจากจอประมาณ 30-60 วินาที โดยการมองออกไปไกล ๆ หรือหลับตา 4.หากจำเป็นต้องอยู่หน้าจอนานเกิน 30 นาที ควรพักการทำงานทุก 1-2 ชั่วโมง ประมาณ 5-15 นาที 5.ใช้แผ่นกรองแสงจากหน้าจอ หรือใส่แว่นกรองแสง ปรับแสงหน้าจอให้พอเหมาะไม่สว่างเกินไป 6.ไม่ควรทำงานในที่มืดจัด และ 7.วางจอให้อยู่ในระยะพอเหมาะที่ตามองสบายไม่ต้องเพ่ง โดยเฉลี่ยระยะจากตาถึงจอควรมีระยะ 45-50 ซม. ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้สายตานาน ๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเป็นประจำ อาจมีผลให้เกิดอาการแสบตา ตาแห้ง ปวดตา เกิดภาวะตาล้าได้ จึงจำเป็นต้องพักสายตาบ่อย ๆ จะช่วยบรรเทาอาการ แต่หากเกิดอาการผิดปกติทางตา ควรพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยต่อไป

สำหรับอาหารบำรุงสายตาจะพบได้ในผักผลไม้ หากรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาเป็นประจำ จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดจอประสาทตาเสื่อมได้ อาทิ ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น แครอต ผักใบเขียว เช่น คะน้า ปวยเล้ง นอกจากนี้ ผักพื้นบ้านของคนไทยยังช่วยให้สุขภาพสายตาดี เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นได้ด้วย อย่างผักบุ้งที่มีวิตามินเอสูง หากรับประทานผักบุ้งเป็นประจำจะลดอาการปวดดวงตา ลดอาการแสบตาที่เกิดจากการใช้ดวงตาหนัก ๆ ได้เป็นอย่างดี ตำลึง สมุนไพรริมรั้วคู่ครัวไทย จุดเด่นของตำลึงอยู่ที่มีสรรพคุณในด้านการบำรุงสายตา ถนอมสายตาให้มีสุขภาพดี ช่วยในการมองเห็นอีกด้วย ฟักทอง ก็เป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เนื้อฟักทองมีวิตามินเอสูง บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพได้ ที่สำคัญ คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาได้

ส่วนเด็ก ๆ ก็ต้องเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาเช่นกัน เพราะหากร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดจะส่งผลเสียต่อสุขภาพตา กรมอนามัย จึงแนะนำให้เลือกอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาให้กับเด็ก ได้แก่ 1) ผักผลไม้หลากสีเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ และสารต้านอนุมูลอิสระ คือ (1) วิตามินเอช่วยปกป้องกระจกตา ช่วยการมองเห็นในที่มืด ได้แก่ ผักผลไม้สีเหลือง ส้มเขียว ซึ่งมีสารแคโรทีนอยด์ ที่เป็นสารตั้งต้นในการสร้างวิตามินเอ เช่น ตำลึง ฟักทอง ข้าวโพด แครอท ผักโขม คะน้า พริกหยวกส่วนผลไม้ เช่น มะละกอ แคนตาลูป มะม่วงสุก (2) วิตามินซี เป็นสารที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ ได้แก่ ผักและผลไม้ต่างๆ เช่น คะน้า ผักโขม กะหล่ำปลี บรอกโคลีหน่อไม้ฝรั่ง พริกต่างๆ ส่วนผลไม้ เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ฝรั่ง กีวี่ (3) ลูทีน สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในข้าวโพด ผักโขม อะโวคาโด(4) ไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมะเขือเทศ ฟักข้าว และ (5) แอนโทไซยานิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบในผักและผลไม้สีม่วง ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ทับทิม กะหล่ำปลีม่วง มะเขือม่วง 2) ปลา เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และ 3)ไข่เนื่องจากในไข่แดงจะมีสารลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งจะช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือดและเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตา ป้องกันการเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org

เรื่องที่เกี่ยวข้อง