ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.เปิดข้อมูลประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการที่ไม่ใช่หน่วยบริการประจำของตนตามนโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ในหน่วยบริการปฐมภูมิแล้วกว่า 2 ปี ดูแลคนไทย 3.6 แสนคน ใช้สิทธิรักษานอกหน่วยบริการประจำ 5.18 แสนครั้ง ช่วยลดภาระค่ารักษารวม 158 ล้านบาท โรคที่เข้ารับบริการมากสุด 10 อันดับแรกคือ ความดันโลหิตสูง ไข้หวัด การเย็บแผลและตัดไหม โควิด เบาหวาน อาหารไม่ย่อย ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนเฉียบพลัน ฟันผุ กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ เวียนศีรษะ มึนงง หน้ามืดตาลาย คลื่นไส้อาเจียน 

วันที่ 25 เมษายน 2566 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงผลการดำเนินงานตามนโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศว่า จากการดำเนินการกว่า 2 ปีที่ผ่านมามีประชาชนเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่ไม่ใช่หน่วยบริการประจำของตน จำนวน 364,721 คน หรือเป็นจำนวน 517,961 ครั้ง ที่หน่วยบริการทุกระดับที่ร่วมให้บริการตามนโยบายจำนวน 2,166 แห่ง เป็นเงินเบิกจ่ายทั้งสิ้น 157,778,351 บาท ทั้งนี้เป็นการรับบริการ OP Anywhere ข้ามเครือข่าย 301,667 ครั้ง ข้ามจังหวัด 97,493 ครั้ง และข้ามเขต 118,700 ครั้ง  
 
ทั้งนี้เมื่อแยกข้อมูลตามปีงบประมาณ มีผู้ที่เข้ารับบริการ OP Anywhere ดังนี้

- ปีงบประมาณ 2564 มีผู้รับบริการจำนวน 42,825 คน หรือจำนวน 57,105 ครั้ง รับบริการที่หน่วยบริการ 206 แห่ง เป็นจำนวนเงินเบิกจ่ายทั้งสิ้น 23,106,476 บาท   

- ปีงบประมาณ 2565 มีผู้รับบริการจำนวน 190,301 คน หรือจำนวน 29,301 ครั้ง รับบริการที่หน่วยบริการ 1,121 แห่ง เป็นจำนวนเงินเบิกจ่ายทั้งสิ้น 79,131,897 บาท

- ปีงบประมาณ 2566 (ข้อมูล 1 ต.ค. 65 - 20 เม.ย. 66) มีผู้รับบริการจำนวน 152,383 คน หรือจำนวน 201,555 ครั้ง รับบริการที่หน่วยบริการ 1,875 แห่ง เป็นจำนวนเงินเบิกจ่ายทั้งสิ้น 55,539,978 บาท

ทั้งนี้ โรคที่เข้ารับบริการมากสุด 10 อันดับแรก คือ 1. โรคหวัดหรือไข้หวัด หรือ Acute nasopharyngitis [common cold] จำนวน 25,056 คน 2. ความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ หรือ Essential (primary) hypertension จำนวน 16,754 คน 3. การเย็บแผลและตัดไหม หรือ Attention to surgical dressings and sutures จำนวน 15,989 คน 4.โรคโควิด หรือ COVID-19 จำนวน 11,214 คน 5.เบาหวานชนิดที่ไม่ต้องพึ่งอินซูลิน ไม่มีภาวะแทรกซ้อน หรือ Non-insulin-dependent diabetes mellitus, without complications จำนวน 8,831 คน 

6. อาการอาหารไม่ย่อย หรือ Dyspepsia จำนวน 8,544 คน 7. การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนเฉียบพลัน หรือ Acute upper respiratory infection, unspecified จำนวน 8,319 คน 8. โรคฟันผุ หรือ Caries of dentine จำนวน 6,958 คน 9. โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ หรือ Gastroenteritis and colitis of unspecified origin จำนวน 6,937 คน และ 10. อาการเวียนศีรษะ มึนงง หน้ามืดตาลาย คลื่นไส้อาเจียน หรือ Dizziness and Giddiness จำนวน 6,447 คน

นพ.จเด็จ กล่าวว่า 30 บาทรักษาทุกที่ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศเป็นสิทธิประโยชน์ที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) อนุมัติให้ผู้มีสิทธิบัตรทองหรือสิทธิ 30 บาท สามารถไปรับบริการนอกหน่วยบริการประจำของตนหรือนอกหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายได้ในกรณีที่มีเหตุอันควร หมายถึงการไปรับบริการโดยไม่ได้มีการนัดหมายมาก่อน หรือไม่ใช่การส่งต่อไปรับบริการ เช่น การรับยา กรณีเป็นผู้ป่วยที่ต้องทานยาต่อเนื่องแล้วยาหมดในระหว่างเดินทางไปต่างพื้นที่ สามารถมาขอรับยาที่หน่วยบริการที่ไม่ใช่ได้เข้ารับการรักษาประจำได้ 

นอกจากนี้ ยังมีกรณีทำแผลและรับวัคซีน เช่น กรณีเดินทางไปต่างพื้นที่แต่ต้องทำแผลต่อเนื่องทุก 2-3 วัน หรือถูกสุนัขกัด ต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ครบและมีเหตุต้องเดินทางไปต่างพื้นที่ ก็ไปทำแผลหรือวัคซีนในหน่วยบริการอื่นได้ 

“เช่นเดียวกับกรณีเจ็บป่วย เช่น ปวดศีรษะ ไข้หวัด ปวดท้อง เคืองตา ฯลฯ หรือกรณีไปต่างพื้นที่แล้วปวดฟัน ก็สามารถไปรับบริการทันตกรรมพื้นฐาน ถอนฟัน อุดฟัน ในหน่วยบริการนอกพื้นที่ได้ ” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อไปว่า การเข้ารับบริการนอกหน่วยบริการประจำของตนนั้น สามารถไปรับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ศูนย์สุขภาพชุมชน ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น ทั้งแบบภายในจังหวัดเดียวกัน ข้ามจังหวัด และข้ามเขตสุขภาพ 

ขั้นตอนการรับบริการ ต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนรับบริการ โดยใช้บัตรประชาชน หรือ เข้าไปที่เมนู “ขอรหัสเข้ารับบริการ” ในแอปพลิเคชันไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso แล้วสแกน QR code ที่หน่วยบริการจัดไว้ให้ และสุดท้ายยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนู สแกนรับบริการ เมื่อยืนยันตัวตนแล้วก็สามารถเข้ารับบริการตามที่กล่าวข้างต้นได้เลย