ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วันที่ 11 สิงหาคม 2566  นพ.จักรกริช โง้วศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ร่วมแถลงนโยบายการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ในสถานพยาบาลใกล้บ้าน และชวนประชาชนเข้ารับบริการตรวจในครั้งนี้โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนางระวีพรรณ แก้วเพียงเพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ร่วมในการแถลงข่าว ณ.รพ.สต.วัดลาดปลาดุก จ.นนทบุรี

นพ.จักรกริช กล่าวว่า  สปสช.ร่วมกับ สธ. ได้ให้ความสำคัญในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว  ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีมติให้การตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ในประชาชนทั่วไปที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยสามารถตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี ด้วย HBsAg ในประชากรทุกคนที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 จำนวน 1 ครั้งตลอดชีวิต และการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ ซี ด้วย Anti-HCV ในประชากรทุกคนที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 จำนวน 1 ครั้งตลอดชีวิต และในประชากรกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ ผู้ใช้ยาเสพติดด้วยวิธีฉีด กลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย บุคลากรสาธารณสุข และผู้ต้องขัง ได้รับสิทธิตรวจคัดกรองซ้ำทุก 1 ปี เข้าเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งสปสช. ได้ประกาศให้หน่วยบริการมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายเมื่อให้บริการคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี แก่กลุ่มเป้าหมาย มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป

นพ.จักรกริชกล่าวว่า  กรณีผู้รับบริการที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 ให้หน่วยบริการบันทึกและส่งข้อมูลผ่านระบบ Krungthai Digital Health Platform และผู้รับบริการกลุ่มอื่น ๆ ที่มีอาการสงสัยว่าตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี ให้หน่วยบริการบันทึกและส่งข้อมูลเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ผ่านระบบโปรแกรม   อีเคลม (e-Clam) หรือเชื่อมต่อข้อมูลจากระบบข้อมูลของหน่วยบริการกับสำนักงาน (Application Programming Interface: API)   อย่างไรก็ตาม สำหรับการบริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี ในประชากรทุกคนที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 สำหรับประชาชนทั่วไป PP ทุกสิทธิ ให้หน่วยบริการบันทึกและเบิกจ่ายผ่านระบบ Krungthai Digital Health Platform แต่กรณีที่ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี ด้วย HbsAg  สำหรับผู้ป่วยสิทธิ UC ที่มีคำสั่งแพทย์นอกเหนือการคัดกรองที่ผ่านไปแล้วการเบิกจ่ายเป็นงบเหมาจ่ายรายหัว  

“  สปสช. ขอประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยบริการได้รับทราบ และประชาชนสามารถมารับการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี   ได้ที่หน่วยบริการของรัฐทุกแห่งที่ให้บริการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และค้นหาให้ผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป”  ผู้ทรงคุณวุฒิกล่าว  

ขณะที่นพ.โอภาส กล่าวว่า   ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี เรื้อรัง ประมาณ 2.2 ล้านคน  ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของประเทศ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีเป้าหมายกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ให้สำเร็จ ภายในปี  พ.ศ. 2573 ทั้งนี้ การกำหนดสิทธิประโยชน์ตรวจคัดกรองไวสตับอักเสบ บี และ ชี ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ จากการที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและสะดวกในการรับบริการ ใกล้บ้าน ซึ่งเมื่อตรวจคัดกรองเร็ว รู้สถานะการติดเชื้อเร็ว ก็จะเข้าถึงการรักษาได้เร็ว ช่วยลดการป่วย การเสียชีวิตลดการเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้ โดยได้ให้รพ.สต.ทั้งสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นเครือข่ายให้บริการในการร่วมตรวจคัดกรอง

“ขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับบริการตรวจคัดกรองในสถานพยาบาลของรัฐได้ทุกแห่งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  หากพบว่า ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี แล้ว สามารถรักษาได้ที่โรงพยาบาลชุมชนใกล้บ้าน ด้วยยาต้านไวรัสชนิดรับประทานที่มีประสิทธิภาพสูง รักษาหายขาดได้ ส่วนโรคไวรัสตับอักเสบ บี แม้ยังไม่มียารักษาให้หายขาด แต่หากอยู่ในระบบการรักษา จะได้รับยาและการดูแลอย่างต่อเนื่อง ป้องกันการป่วยรุนแรงได้” ปลัด สธ.กล่าว