ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประชุมทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ กระทรวงดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ ถกเข้มคลอด 7 มาตรการระยะสั้นคุมอาวุธปืน สั่งผู้ว่าฯ งดออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน-ห้ามเด็กต่ำ 20 ปีเข้าสยามยิงปืน เว้นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ แต่ต้องฝากปืนไว้ที่สนามเท่านั้น-ขอดีอีเอส ปราบเว็บขายปืนเถื่อน รายงานตรงมท. ทุก 15 วัน ส่วนระยะยาวคือ แก้ไขพรบ.อาวุธปืน เช่นมีเอกสารใบรับรองแพทย์ไม่มีปัญหาสุขภาพจิต

 

7 มาตรการคุมอาวุธปืน

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 5 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมพิจารณาแนวทางการออกใบอนุญาตพกปืนแก่บุคคลทั่วไป ว่า จากการหารือร่วมกับนน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจ กรมศุลกากร กระทรวงดิจิทัล เศรษฐกิจ และสังคม กระทรวงสาธารณสุข ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการระยะสั้น ดังนี้

1. ให้นายทะเบียนอาวุธปืนทั่วประเทศ เช่น นายอำเภอในต่างจังหวัด และในกทม.งดออกใบอนุญาตให้สั่งนำเข้าหรือค้าซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืนทุกชนิด ไม่เฉพาะปืน และไม่อนุญาตให้รายใหม่ขออนุญาตเป็นผู้ค้า สั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนเพิ่ม

2. ขอให้ผู้ครอบครองแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนที่อาจจะดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ โดยให้นำแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนของตนเอง ที่ครอบครองอยู่ไปแสดงและทำบันทึกต่อนายทะเบียนอาวุธปืนตามภูมิลำเนา ที่มีทะเบียนบ้านอยู่

3. ให้กรมศุลกากรตรวจสอบการนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยเฉพาะแบลงค์กัน และบีบีกัน ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนให้เข้มงวด

4. ให้การกีฬาแห่งประเทศไทยที่กำกับดูแลสนามยิงปืนที่ได้จดทะเบียนเป็นสมาคมกีฬาทั่วประเทศ ให้กวดขัน ตรวจสอบทั่วประเทศดังนี้ ห้ามผู้มีอายุอายุไม่เกิน 20 ปีเข้าสนามยิงปืน ยกเว้นได้รับอนุญาตตามระเบียบการกีฬาแห่งประเทศไทย อาทิ นักกีฬายิงปืนทีมชาติ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในสนามยิงปืน ต้องมีทะบียนถูกต้อง และต้องตรงตัวกับผู้ที่นำมาใช้บริการ ไม่สามารถไปยืมของใครมาใช้ได้ ห้ามนำกระสุนปืนออกนอกเขตสนามยิงปืนเป็นอันขาด ส่วนสนามยิงปืนในกำกับดูแลของส่วนราชการ ขอให้ดำเนินการกวดขันตรวจสอบให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการและข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด ต่อไปนี้จะบอกว่าเก็บปืนไว้ที่บ้าน แล้วพกมาสนามยิงปืนไม่ได้ ถ้าเป็นนักกีฬา หรือเป็นสโมสรใดก็ตาม ต้องฝากอาวุธปืนของตัวเองไว้ที่สนามยิงปืน โดยสนามต้องมีวิธีการรักษา ควบคุม เก็บรักษาให้ผู้มาใช้อาวุธดังกล่าว ขอย้ำว่า นำออกนอกสนามไม่ได้ จนกว่าจะพ้นจากการเป็นสมาชิกที่มาใช้งาน ก็จะต้องขออนุญาตเป็นรายครั้งในการพกพาอาวุธปืนไปที่ใด

5. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศงดออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว

6. กระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบายดำเนินโครงการอาวุธปืนสวัสดิการให้กับประชาชนทั่วไป แต่สำหรับเจ้าพนักงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องใช้ในการป้องกัน ปราบปรามจะมีได้แค่คนละ 1 กระบอก แล้วห้ามโอนต่อ หากผู้ครอบครองเสียชีวิตก็ให้ตกเป็นของทายาทตามระเบียบ

7.ให้นายทะเบียนงดออกใบอนุญาตสั่งนำเข้าอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนของร้านค้าอาวุธปืนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ช่วงนี้ตนจะไม่อนุญาตให้มีการเปิดร้านค้าอาวุธปืนรายใหม่ เพื่อลดความวิตกกังวลของประชาชน และลดการเข้าถึงการครอบครองอาวุธปืนของประชาชนทั่วไปให้มากที่สุด

“คนที่พกปืนไปมาผิดกฎหมายทั้งนั้น ประชาชนทั่วไปในประเทศนี้ ไม่สามาถแต่งตัวแล้วพกปืน ไม่สามารถเอาปืนพกเหน็บเอวแล้วไปไหนต่อไหนก็ได้ตามสะดวก โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันตัว เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย การอนุญาตให้พก ไม่ได้อนุญาตให้ทำแบบนี้ คนที่มีใบอนุญาตครอบครอง หรือพกพาถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่คนทำผิด แต่คนที่ไปก่อเหตุ มีเรื่องมีราว คือพวกผิดกฎหมายทั้งนั้น เช่น ปืนไม่ใช่ของตัวเอง ปืนเถื่อน ซื้อมาจากแหล่งไหนก็ไม่รู้ เป็นคนที่ตั้งใจทำผิดกฎหมาย ตรงนี้ตำรวจเร่งดำเนินคดีในทุกกรณี ข้อกำหนดของเราที่ออกมา คือ ห้ามพกพาและห้ามซื้อใหม่ ใครมีก็เก็บเอาไว้ที่บ้าน และเก็บรักษาไว้ให้ดี โดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเอาไปใช้ เจ้าของปืนมีความผิดด้วย” นายอนุทิน กล่าว

กระทรวงดีอีเอส ปิดเว็บไซต์ เพจออนไลน์การซื้อขายอาวุธปืนเถื่อน

นายอนุทิน กล่าวว่า จะมาอ้างว่า ต้องการพกอาวุธเพื่อป้องกันตัวไม่ได้ การอนุญาตให้คนพกพาอาวุธปืนได้ ก็เหมือนเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดีอีเอส ปิดเว็บไซต์ เพจออนไลน์การซื้อขายอาวุธปืนเถื่อน และสิ่งเทียมอาวุธปืนดัดแปลงเป็นอาวุธปืน โดยให้รายงานผลการปฏิบัติงานให้กระทรวงมหาดไทยรับทราบทุกๆ 15 วัน การหารือในวันนี้พยายามที่จะใช้กฎหมายที่อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย เพื่อบังคับใช้อย่างเต็มที่

ส่วนอื่นที่นอกเหนือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นของหน่วยงานอื่นๆ หากมีเรื่องใดที่จำเป็นที่จะมีข้อเสนอเข้ามา จะมีการแก้ไขกฎหมาย หรือตรากฎหมายใหม่ ก็เสนอมา แล้วจะนำเรื่องเรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและให้ความเห็นชอบเพื่อดำเนินการต่อไป โดยรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติคงต้องช่วยกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ ข้อกฎหนดที่หารือกัน จะไปยกร่างเป็นหนังสือสั่งการเพื่อแจ้งให้ผู้ปฏิบัติรับทราบต่อไป ให้มีผลบังคับใช้ทันที

 

ขึ้นทะเบียนบีบีกัน สิ่งเทียมอาวุธปืน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกวาดล้างการครอบครองปืนที่ถูก และไม่ถูกกฎหมายอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ปืนที่มีทะเบียนนั้นทราบอยู่แล้วว่าเป็นของใคร ส่วนปืนบีบีกัน และสิ่งเทียมอาวุธปืนให้มาขึ้นทะเบียนกับกรมการปกครองทุกกระบอก เมื่อขึ้นทะเบียนแล้ว อย่างน้อยก็จะรู้ว่าเป็นของใคร ถ้าเปลี่ยนมือแล้วไม่มาแจ้ง หากมีอะไรก็ต้องรับผิดชอบ และถ้าไม่มาขึ้นทะเบียน เมื่อมีการตรวจค้น ตรวจจับ หรือมีใครนำไปใช้ก็จะถูกจับกุมและมีโทษ

ตีกรอบ 30 วัน 60 วัน หรือ 90 วัน ให้อธิบดีกรมการปกครองพิจารณา

เมื่อถามว่า มีกรอบเวลาเปิดให้แจ้งครอบครองสิ่งเทียมอาวุธปืนต้องดำเนินการภายในระยะเวลาเท่าไหร่ นายอนุทินกล่าวว่า จะมีการกำหนดกรอบไว้ เช่น 30 วัน 60 วัน หรือ 90 วัน อธิบดีกรมการปกครองจะไปพิจารณาและนำมาเสนอ ทั้งหมดนี้เป็นกรอบปฏิบัติ อาจจะมีเพิ่มเติมเข้ามาได้ ถ้าอยู่ในขอบเขตอำนาจของกรมการปกครองเราก็จะดำเนินการ

มาตรการระยะยาวแก้กม. ต้องมีใบรับรองประเมินสุขภาพจิต

ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการระยะยาวคือ การแก้ไขพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 (1) ต้องมีเอกสารใบรับรองแพทย์ที่รับรองเรื่องสุขภาพจิต ภาวะทางจิตใจ ที่ผู้ขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนต้องใช้ประกอบในการยื่นคำขอ (2) ความหมาย บทนิยาม ของคำว่า “สิ่งเทียมอาวุธปืน” ไม่ให้หมายความรวมถึงแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่น ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ง่าย (3) กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืนที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ ต้องยื่นคำขอต่อนายทะเบียนอาวุธปืน (4) ผู้ครอบครองอาวุธปืนทั่วประเทศทั้งรายเดิมที่มีอยู่แล้ว และรายใหม่ ที่อาจจะมีเพิ่มขึ้นจะต้องนำอาวุธปืน มายิงทดสอบเก็บข้อมูลหัวกระสุนทุกกระบอก ทุกราย (5) ให้ใบอนุญาตมีอาวุธปืนภายในวงเล็บ (ป.4) มีอายุของใบอนุญาต ซึ่งผู้ที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว จะต้องนำอาวุธปืนมารายงานตัว กับนายทะเบียน ในทุก 5/10 ปีเพื่อพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตเช่นเดียวกันกับใบขับขี่รถยนต์