ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” เผยจะเพิ่มพื้นที่โซนนิ่งปิดผับบาร์ตี4 หรือไม่ขึ้นกับการจัดระเบียบ ชี้ตั้งแต่ขยายเวลาช่วยเศรษฐกิจหมุนเวียน แท็กซี่ แกร๊บ หาบเร่ แผงลอย มีรายได้มากขึ้น พร้อมร่วมเสวนา “บิ๊กโจ๊ก” ขอตร.ปรับเกณฑ์เป็น ดื่มต้องไม่ขับ 

“อนุทิน” ลั่นพอใจปิดผับบาร์ตี4 เศรษฐกิจหมุนเวียน

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม  ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมหลังจากอนุญาตให้สถานบันเทิงในพื้นที่โซนนิ่งเปิดบริการได้ถึงตี 4 ซึ่งล่าสุด นายอนุทิน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจความเรียบร้อยที่ RCA และ ถนนข้าวสาร ว่า ไม่มีปัญหา ทำให้คนที่ทำมาหากินในทุกสาขาอาชีพ มีความพึงพอใจ เขามีชั่วโมงการทำงานเพิ่มขึ้น แท็กซี่ แกร๊บ หาบเร่ แผงลอย มีรายได้มากขึ้น การหมุนเวียนเงินดีขึ้น 

ทุกฝ่ายตั้งใจ ที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย นักท่องเที่ยว บอกว่า ได้เตรียมตัวมา นั่งขนส่งสาธารณะมา และจะกลับขนส่งสาธารณะ ส่วนที่มาเป็นกลุ่ม มีเพื่อนคอยดูแล ทุกคนมีความพยายามในการอยู่ในกฎกรอบ ผู้ประกอบการเตรียมตัวมาดีจะดูแต่บัตรประชาชนใบจริง มีการ์ด มีเครื่องตรวจอาวุธ ถ้าลูกค้าดื่มเหล้า และสภาพไปต่อไม่ไหว จะไม่ขายต่อ

เมื่อมีการถามว่าจะมีการขยายพื้นที่โซนนิ่งเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า  ก็ต้องขึ้นอยู่กับ การจัดระเบียบ ว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน  ถ้าทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้หมด เราหนุนเรื่องเศรษฐกิจอยู่แล้ว

“อนุทิน” เสวนาร่วม “บิ๊กโจ๊ก” ขอ ตร.ปรับเกณฑ์วัดนักดื่ม 

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. ร่วมงานเสวนา โครงการขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้าTraffic Forward 

โดยนายอนุทิน กล่าวบนเวทีใจความตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันนี้ การทำงานของภาครัฐ  เราทำงานร่วมกันหมด กระทรวงมหาดไทย สตช., กทม.  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัย  ก็บูรณาการงานร่วมกัน  ในเทศกาลปีใหม่ ต้องรณรงค์ ในการสร้างความมั่นใจว่าความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับผู้สัญจรไปมา  ต้องถูกควบคุม อะไรที่เป็นอันตรายกับพี่น้องประชาชน ต้องหาทางจำกัดวง  

วันนี้ มาพึ่งพา สตช. ในเรื่องของข้อมูลการสัญจรไปมาต่างๆ ข้อมูลบุคคล การรายงานอุบัติเหตุ  ทั่วประเทศ ต้องขอบคุณท่านผู้ว่า กทม. ด้วย เพราะถ้าเราร่วมมือทำงานได้ การเดินทางย่อมความปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมไปถึงการควบคุมสถานบันเทิง สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ เป้าหมายเรื่องพวกนี้ มันต้องทำเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย ต้องเข้มข้น

พี่น้องประชาชน ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด เราต้องไม่ใช่แค่เมาไม่ขับ แต่ต้องดื่ม ไม่ขับ หลายคนเข้าใจดีถึงเจตนารมย์  ได้มีโอกาสไปตรวจตามสถานบริการ สถานบันเทิง นักท่องเที่ยว  บอกว่า ไม่ขับรถมาเอง บางคนให้เพื่อนที่ไม่ดื่ม มาคอยพาเขากลับบ้าน แบบนี้ถูกต้อง

ตั้งด่านต้องกำหนดมาตรฐาน “ดื่มไม่ขับ” 

“หน่วยงานภาครัฐทั้งหลาย การที่เราทำงานร่วมกัน มันเป็นพลัง  ใครที่คิดจะทำผิด ก็ต้องระมัดระวังมากๆ เพราะมีหลายตาคอยสอดส่อง  เรื่องการสัญจร  มันมีเรื่องของการบรรทุกนำหนักเกิน  ความเร็วเกิน การเมาแล้วขับ มันต้องจัดการ เราใช้ องคาพยพ ของแต่ละหน่วยงานที่มีอยู่  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เราจะลดสารตั้งต้นของอุบัติเหตุทางถนน หลักๆ ก็เคือ การเมาสุรา เราเคยมีมอตโต้ว่าเมาไม่ขับ ตอนนี้ มันต้องเปลี่ยนเป็นดื่มไม่ขับ เพราะไม่มีคนยอมรับว่าเมา ตำรวจ ต้องช่วยกัน เมื่อมีการตั้งด่านตรวจ มันต้องกำหนดมาตรฐานใหม่แล้ว คือ ต้องไม่ดื่มเลย”