ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"ชลน่าน" ปล่อยคาราวานรถกู้ชีพการแพทย์ฉุกเฉินพร้อมรับมือเทศกาลปีใหม่ เตือนคนไทย Drink Don’t Drive ดื่มห้ามขับ เหตุเสี่ยงอุบัติเหตุ  เผยตัวเลขอุบัติเหตุไทยพบเสียชีวิตอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 9 ของโลก เฉลี่ยผู้เสียชีวิตปีละ 22,491 คน หรือประมาณ 60 คนต่อวัน ดื่มเหล้าแล้วขับต้นเหตุสำคัญ

 

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่บริเวณหน้าอาคารสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในงานรณรงค์ “Drink Don’t Drive ทุกชีวิตปลอดภัย มั่นใจแพทย์ฉุกเฉิน” โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสังคมที่สำคัญของประเทศไทย ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สังคม และประเทศชาติ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี พ.ศ. 2561 พบว่า มีอัตราผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเพิ่มขึ้นเป็น 1.35 ล้านคนต่อปี ซึ่งประเทศไทยมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอันดับ 1 ของเอเชียและเป็นอันดับ 9 ของโลก ด้วยตัวเลขอัตราการเสียชีวิต 32.7 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 22,491 คน หรือประมาณ 60 คนต่อวัน และสิ่งที่ซ่อนอยู่ในส่วนนี้คือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะขับ ขี่ ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาที่ส่งผลต่อสถิติเหล่านี้ เป็นสิ่งที่รัฐบาล และตนเองในฐานะโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประธานคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างสูง

ยึดถือหลัก 3 D “Drink Don’t Drive” ห้ามดื่มเหล้าขณะขับขี่

 

สำหรับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่พี่น้องประชาชนมีการเดินทางและท่องเที่ยวในที่ต่างๆทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ก็ส่งผลให้ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมีมากขึ้นไปด้วย รัฐบาลขอส่งความห่วงใย ความปรารถนาดีถึงพี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือในการเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่และการเดินทาง เน้นย้ำว่าต้องยึดถือหลัก 3 D “Drink Don’t Drive” คือต้องห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ โดยเด็ดขาด และหากพบเหตุการณ์อุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บ สามารถโทรขอรับการช่วยเหลือจากทีมกู้ชีพฉุกเฉิน ที่เรามีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน มูลนิธิ เตรียมพร้อมทั่วประเทศ ผ่านหมายเลข  1669 ได้ ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ด้าน ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.)  กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงตัวอย่างของความพร้อมของชุดปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน ทั้งจากสังกัดกระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ สมาคม หน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 7,800 หน่วยทั่วประเทศ และในส่วนของผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนนั้น ถือเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มอาการที่มีการโทร.ขอความช่วยเหลือจากสายด่วน 1669 มากที่สุดของทุกปี และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามการมีหน่วยกู้ชีพที่มีมาตรฐานมีความพร้อมและครอบคลุมอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้บาดเจ็บ ลดความสูญเสียและความพิการ นอกจากนี้การมีระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่ดี ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศในการเดินทางท่องเที่ยวยังที่ต่างๆของประเทศอีกด้วย

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง