ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สาธารณสุข ร่วมรำลึก 16 ปี “นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์” ชูเป็นบุคคลที่ทำความฝันเป็นจริง ให้คนไทยทุกคนมีสิทธิสุขภาพ ยกย่อง “ทักษิณ ชินวัตร” สานต่อนโยบายทำได้จริงตั้งแต่ปี 2545 แม้ที่ผ่านมามีปัญหาเข้าถึง การรักษา ปัจจุบันรัฐบาลยกระดับ ทำโครงการ 30 รักษาทุกที่  พร้อมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อน “หมอสงวน” เป็นรัฐบุรุษวงการสาธารณสุขไทย

เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายในงานรำลึก 16 ปี นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้วางรากฐานหลักประกันสุขภาพไทย ว่า นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ถือเป็นบุคคลสำคัญในวงการสาธารณสุขไทย ตนมีโอกาสได้ทำงาน ได้คิดร่วมกับนพ.สงวน ตั้งแต่เริ่มทำงาน ตั้งแต่มิติต่างๆ การทำงานของแพทย์ในชนบท และเมื่อมาเป็นผู้แทน ก็ได้มาสัมผัสในการเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545  ซึ่งนพ.สงวน เป็นเลขานุการ ส่วนตนเป็นผู้ช่วยเลขาฯ เมื่อปี 2544 ต่อ 2545 ซึ่งร่างพ.ร.บ.ออกมารองรับการขับเคลื่อนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

“ต้องขอบคุณมูลนิธิมิตรภาพบำบัดที่จัดงานรำลึกคุณหมอสงวนตลอด ปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสร่วมในฐานพรรคการเมือง แต่ปีนี้ในฐานะรมว.สาธารณสุข มุมมองต่อการมองคุณหมอสงวนไม่แตกต่างกัน เพราะมองจากความรู้สึก สิ่งที่ได้รับ สิ่งที่ได้เห็นตลอด ซึ่งคุณหมอสงวน เป็นผู้ที่ทำให้เรื่องที่เป็นความฝันเป็นจริง โดยเฉพาะหลักประกันสุขภาพของประชาชน จากประชาชนคนไทยที่ขาดสิทธิในการดูแล การเข้าถึงพยาบาล” นพ.ชลน่าน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการสธ. กล่าวอีกว่า  ตอนนั้นมีบัตรสงเคราะห์รายได้น้อยดั่งเดิม มีบัตรสุขภาพ มีสวัสดิการของราชการ แต่สิ่งนั้นได้เพียง 50-60% แม้บัตรสงเคราะห์รายได้น้อยก็มีการปรับเปลี่ยนคำ ยุคหนึ่งใช้คำว่า ผู้ที่สังคมควรช่วยเหลือเกื้อกูล โดยเฉพาะหลังปี 2540 ที่มีรัฐธรรมนูญ  คำว่า สงเคราะห์ เราจะสู้มาตลอด โดยเฉพาะตนเอง จากการทำงานในกลุ่มนักกิจกรรม แพทย์ชนบท  คำว่า สงเคราะห์ต้องเอาออกไป เอาออกไปจากการมาครอบงำคนไทย เพราะรัฐธรรมนูญ 2540 รับรองให้เป็นสิทธิของคนไทยต้องมี เมื่อก่อนไม่มีรัฐธรรมนูญ พูดได้เพราะไม่มีกฎหมายมารองรับ แต่เมื่อมีจึงต้องเป็นสิทธิ สิทธิสำคัญคนที่ไม่มีสิทธินั่นเอง โดยเฉพาะหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะรับรองสิทธิให้คนไทยทุกคนที่ไม่มีสิทธิอื่นๆ จะยากดีมีจน เศรษฐีพันล้าน ก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ช่วงทำกฎหมาย เป็นการเสนอโดยภาคประชาชน จึงให้สิทธิตัวแทนประชาชนมาร่วมขับเคลื่อน อย่างไรก็ตาม แต่คนที่มีบทบาทสำคัญได้ผ่านกระบวนการผลักดันตลอด โดยเฉพาะนพ.สงวน ที่ผลักดัน และใช้ทฤษฎีสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ของนพ.ประเวศ วะสี มาขับเคลื่อนเรื่องนี้  หลายๆบุคคลช่วยกันขับเคลื่อนทางสังคม ทั้งอาจารย์จอน อึ้งภากรณ์ อาจารย์วิชัย และอีกหลายๆท่าน  ซึ่งการเชื่อมโยงมิติทางการเงินก็ยาก แต่นพ.สงวน ทำได้

“อีกบุคคลที่ต้องขออนุญาตพูดคือ บุคคลที่ชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร  หากไม่มีนโยบายนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะเป็นการใช้เม็ดเงินในการดูแลสุขภาพประชาชนที่ไม่มีสิทธิ ซึ่งนับยากดีมีจนหมด ครอบคลุมประชากรสมัยนั้น 45 ล้านคน เริ่มแรกเหมาจ่ายรายหัว 1,205 บาทต่อหัวประชากร ในมุมการเมืองจึงมีส่วนสำคัญในการผลักดัน จนสิทธิเกิดขึ้น ทำให้เป็นหลักประกันให้คนไทยเข้าถึงบริการได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียม แต่ 22 ปีที่ผ่านมาได้ระดับหนึ่ง สิทธิมี แต่เข้าถึงอย่างเท่าเทียมหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ จึงนำมาสู่การต่อยอดยกระดับ 30 บาทฯ ด้วยการเข้าถึงทุกที่อย่างสะดวกด้วยระบบดิจิทัล จึงเป็น 30 บาทรักษาทุกที่” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้จึงขอรำลึกนพ.สงวน ในรอบ 16 ปี สิ่งที่ปรากฎขึ้น สิ่งที่ทำก็ยังอยู่ในความทรงจำตลอดไป และเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งครบรอบ 16 ปีของนพ.สงวน โดยท่านนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ได้พูดถึงนพ.สงวนว่า

“ขอไว้อาลัยแก่ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ รัฐบุรุษแห่งวงการสาธารณสุขไทย จากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วหน้าสู่ 30 บาทรักษาทุกโรค นพ.สงวน คือผู้วางรากฐานหลักของโครงการ นับเป็นผู้สร้างความเป็นธรรมด้านสุขภาพให้แก่ประชาชน วันนี้เราสูญเสียรัฐบุรุษแห่งวงการสาธารณสุข ผู้ที่ผลักดันความเท่าเทียมในการรักษาโรค แต่หลักการที่ท่านวางไว้ จะเป็นแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนตลอดไป”

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นี่คือคำพูดนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความหมาย คำว่า รัฐบุรุษ มีความหมาย จึงขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป  คำว่ารัฐบุรุษในวงการสาธารณสุข จะเป็นจริงได้อย่างไร โดยรัฐบุรุษในประเทศไทยปัจจุบัน มี 2 ท่าน คือ รัฐบุรุษอาวุโส “ปรีดี พนมยงค์” และรัฐบุรุษ “เปรม ติณสูลานนท์”  ซึ่งทั้ง 2 ท่านได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นรัฐบุรุษ ดังนั้น หนทางจะประกาศชื่อ นพ.สงวน ให้ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นรัฐบุรุษแห่งวงการสาธารณสุขไทย หากพวกเราช่วยกันขับเคลื่อน และมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศเป็น รัฐบุรุษ นั่นคือ ความสำเร็จ ตนเชื่อในความสามารถของพวกท่าน