ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดหลักสูตรอบรม Medical Hub Executive Program รุ่นที่ 1 ผลักดันไทยก้าวสู่ผู้นำโลกด้าน Health & Wellness Destination รองรับนโยบายเศรษฐกิจสุขภาพ ชี้ผลการอบรมเตรียมจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย ทั้งการลงทุนสุขภาพ เทคโนโลยีส่งเสริมการมีบุตร ผลักดันเข้า ครม. ภายในปีนี้

 

เมื่อวันที่ 26 มกราคม  ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)  นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)พร้อมด้วย ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. แถลงข่าวเปิดหลักสูตร Medical Hub Executive Program (MEP) รุ่น 1 โดย นพ.สุระกล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มการดูแลสุขภาพทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมป้องกันมากกว่าการรักษา เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี จะต้องเริ่มจากการแสวงหาสถานที่รับบริการหรือพำนักอาศัยที่สามารถตอบโจทย์ในการดูแลสุขภาพได้อย่างองค์รวม ซึ่งประเทศไทยถือเป็นเป้าหมายหลักที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกตัดสินใจเดินทางมารับบริการรักษาพยาบาล ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จากความพร้อมของนโยบายรัฐบาล มีสถานพยาบาลที่มีศักยภาพ บุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญทุกสาขา

ผลักดันไทยก้าวสู่ผู้นำโลกด้าน Health & Wellness Destination

นพ.สุระกล่าวว่า สบส.จึงร่วมกับมูลนิธิกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดหลักสูตรอบรม Medical Hub Executive Program รุ่นที่ 1 เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกด้าน Health & Wellness Destination ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมในการรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมการแพทย์และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแก่ผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนด้วย จึงจะมีการอบรมโดยใช้องค์ความรู้ทางวิชาการที่ทันสมัย เกี่ยวกับขั้นตอนกระบวนการทำธุรกิจสุขภาพ เทคโนโลยีสมัยใหม่ และจะแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรม เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายผลักดันเรื่อง Medical Hub ของไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติให้ได้ ซึ่งจะตอบโจทย์กับนโยบายเศรษฐกิจสุขภาพด้วย

"ผู้เข้ารับการอบรมจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์บริหารองค์กรธุรกิจสุขภาพและไม่ใช่ธุรกิจสุขภาพ เพราะอยากให้เข้ามามองว่า ในฐานะที่มีทุนแล้วจะร่วมขับเคลื่อนเรื่องนี้แบบไหนอย่างไร ซึ่งอาจมีมุมมองที่ดีกว่าคนที่เคยทำ โดยกลุ่มเป้าหมายมีทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะไม่ได้เป็นรายใหญ่มากนัก แต่เป็นรายย่อยที่มีศักยภาพสูง ก็จะได้ข้อเสนอที่ดีและเป็นจริงได้มาก ซึ่งในการอบรมจะเกิดการเห็นโอกาส และทำ Business Matching เพาะบางคนเป็นผู้ประกอบการขายหรือผลิตสินค้าบางอย่าง มาเจอกับผู้ให้บริการ ก็สามารถแมตช์กันได้ก็ซื้อขายที่เป็นประโยชน์กันได้   โดยหลักสูตรนี้รุ่น 1 จะรับ 80 คน มีอธิบดี สบส.และเลขาธิการ อย.ร่วมอบรมด้วย มีค่าใช้จ่ายในการสมัครประมาณ 1.5 แสนบาทต่อคน" นพ.สุระกล่าว

ผลการอบรมหลักสูตร ดันเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเข้า ครม.

นพ.สุระกล่าวว่า การอบรมจะเริ่มเดือน พ.ค.นี้ ใช้เวลาประมาณ 14 สัปดาห์ คาดว่าภายใน ก.ค.ก็จะได้ข้อเสนอเชิงนโยบายของกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมว่า มีทิศทางตอบสนองหรือเป็นไปได้ในการผลักดัน ที่จะสามารถเสนอเข้าคณะกรรมการเมดิคัล ฮับ ของประเทศ ที่มีนายกฯ เป็นประธาน หากพิจารณาว่าเป็นไปได้สูงก็จะผลักดันเข้า ครม.เห็นชอบต่อไป เช่น อย่างที่มีการร้องขอเข้ามากอย่างความงาม ประเทศไทยก็มีการทำเรื่องนี้ ตลาดของเป็นกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม เข้ามาทำความงามเยอะมาก ถ้าทำถูกกฎหมายก็สามารถดึงคนต่างชาติที่ไกลกว่านี้มาได้ หรืออย่างส่งเสริมการมีบุตรก็จะอยู่ในเทรนที่จะสนับสนุนด้วย

เทรนสุขภาพดันสู่ ซอฟต์เพาเวอร์ ขายอัตลักษณ์ไทย

"นอกจากนี้ ยังจะเป็นการดันซอฟต์เพาเวอร์ด้านสุขภาพด้วย คือ การขายอัตลักษณ์ความเป็นไทย ในมิติของอัตลักษณ์ไทยเรียนว่า มือของคนไทย (Thai Hand) ไม่เหมือนมือประเทศอื่นในโลกนี้ การนวดไทยราคาแพงที่สุดเมื่อเทียบตลาดนานาชาติ เเวลาไปต่างประเทศถ้านวดไทยจะแพงกว่านวดอื่น นี่คือซอฟต์เพาเวอร์หนึ่ง อีกอย่างคือเรื่องของการต้อนรบของคนไทยและการตกแต่งสถานที่ต่างๆ ให้ดึงดูดนักท่องเที่ยว" นพ.สุระกล่าว

หลักสูตรบูรณาการ 4 ด้าน ส่งเสริมพัฒนาเป็นฮับ ทั้งรัฐเอกชน

ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. ในฐานะผู้จัดการหลักสูตร กล่าวว่า หลักสูตร MEP เป็นการส่งเสริมพัฒนาผู้บริหารภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการภาคธุรกิจ เสริมสร้างความรู้ทางวิชาการตามหัวข้อ Big 4 Innovation Module "I For DHSS" อาทิ นโยบายด้านเศรษฐกิจสุขภาพ ซอฟต์เพาเวอร์ กฎมายในการประกอบธุรกิจสุขภาพ เทรนด์และนวัตกรรมในโลกอนาคตสุขภาพ เป็นต้น บูรณาการกลไก 4 ด้าน คือ Medical Service Hub , Wellness Hub , Academic Hub และ Product Hub มี นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการ อย. ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ศ.คลินิก นพ.ชาญ ศรีรัตรสถาวร ผอ.รพ.ศิริราช ปิยะมหาราชการุณย์ นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช กรรมการผู้จัดการ รพ.เมดพาร์ค  นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร BDMS Wellness Clinic ร่วมเป็นวิทยากร และมี นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค/สบส./เลขาธิการ อย. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ  และ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม อดีตเลขาธิการ อย.มาร่วมเป็นอาจารย์ประจำกลุ่มด้วย

เปิดรับสมัครหลักสูตร 1-29 ก.พ.นี้ รุ่นแรกเพียง 80 คน

หลักสูตรนี้จะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 - 29 ก.พ. 2567 โดยจะพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครตามคุณสมบัติที่กำหนด 80 คนโดยขอให้เขียนโปรไฟล์ให้ชัดและละเอียด ว่าเป็นใคร ตำแหน่งอะไร ทำอะไรมา จะคัดเลือกจากโปรไฟล์ที่ส่งมาเป็นหลัก ไม่มีการสัมภาษณ์ แต่จะมีคณะกรรมการบริหารหลักสูตรเป็นผู้พิจารณาคัดเลือก ประกอบด้วย อธิบดี สบส. รศ.นพ.ฉันชาย ศ.นพ.อภิชาติ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการ อย. และรองอธิบดี สบส.ทั้ง 3 คน  อบรมทั้งหมด 14 ครั้ง ทั้งในภาคทฤษฎีและศึกษาดูงาน ต้องผ่านเกณฑ์อบรมคือระยะเวลาเข้าร่วมอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ระยะเวลาอบรมตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. - 15 ส.ค. 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ฝ่ายเลขานุการหลักสูตร มูลนิธิกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทร. 029137000 ต่อ 18702 หรืออีเมล hrd2566.hss@gmail.com

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้จากคิวอาร์โคดด้านล่าง