ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อเร็วๆนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช ตําแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ(MOU) ระหว่าง ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย โดย นายประพันธ์ ใยบุญมี ตําแหน่ง ประธาน ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย 

โดยทั้งสองฝ่ายตกลงทําบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ซึ่งต่อไปในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ทางวิชาการ เรียกว่า “บันทึกข้อตกลง” โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. วัตถุประสงค์ของความร่วมมือ 

1.1 เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการวิจัย การสร้างแนวทางการจัดการศึกษา และการพัฒนาบุคลากร 1.2 เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่งานวิจัย องค์ความรู้ใหม่ ทางวิชาการสาธารณสุข หรือวิทยาศาสตร์ สุขภาพ และศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง

2. รูปแบบความร่วมมือ

2.1 มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง และชมรม ให้ความร่วมมือดําเนินการจัดกิจกรรม การอบรมถ่ายทอดความรู้ กิจกรรมสร้างสรรค์ (เช่น การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การแข่งขันทางวิชาการ งานประชุมวิชาการ) ทางวิชาการสาธารณสุข หรือวิทยาศาสตร์สุขภาพ และศาสตร์ที่เกี่ยวข้องให้กับนักวิจัย ตามที่สองฝ่ายมีความเห็นพ้องกัน 2.2 ร่วมกันพัฒนาโจทย์วิจัย โครงการวิจัยการพัฒนานวัตกรรม งานสร้างสรรค์ หรือสิ่งประดิษฐ์ หรือโครงการอื่นแนวสร้างสรรค์และมีประโยชน์ เพื่อขอการสนับสนุนจากแหล่งทุนต่าง ๆ

2.3 นักวิจัย นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย สามารถดําเนินงานร่วมกับบุคลากร ของชมรม ตามที่สองฝ่ายมีความเห็นพ้องกัน 2.4 มหาวิทยาลัยให้การส่งเสริมและสนับสนุนนักวิจัย นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรของ มหาวิทยาลัยเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านวิชาการและ/หรือกิจกรรมที่เกี่ยวกับข้างต้น 2.5 ความร่วมมือในกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องร่วมกัน

3. บันทึกข้อตกลงนี้มีกําหนดระยะเวลาและเงื่อนไข ดังนี้

3.1 บันทึกข้อตกลงนี้มีกําหนดระยะเวลา 3 (สาม) ปี โดยมีผลบังคับใช้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570 และหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประสงค์จะยกเลิกบันทึก ข้อตกลงนี้ก็สามารถกระทําได้โดยแจ้งเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าก่อนวันเลิกบันทึกข้อตกลงไม่น้อยกว่า 90 (เก้าสิบ) วัน แต่ทั้งนี้ต้องไม่กระทบกระเทือนถึงกิจกรรมหรือเรื่องที่ผูกพันหรือดําเนินการค้างอยู่ ให้ดําเนินแล้วเสร็จต่อไป

3.2 ทั้งสองฝ่ายอาจตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อแก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ข้อตกลงนี้ให้เป็นไปภายใต้ความเห็นชอบร่วมกัน และลงนามโดยผู้มีอํานาจพร้อมประทับตราสําคัญ (ถ้ามี) ผูกพัน นิติบุคคลทั้งสองฝ่ายและให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกข้อตกลงนี้

3.3 บันทึกข้อตกลงนี้เป็นบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันทั่วไป ในการดําเนินงานขั้นตอนต่อไป กรณีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาที่อาจเกิดขึ้นจากผลการดําเนินงานของข้อตกลงนี้ หน่วยงานทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมกันกําหนดรายละเอียดภายใต้ขอบเขตและวัตถุประสงค์แห่งข้อตกลงนี้

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ทําขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกันทุกประการ ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจตามข้อตกลงโดยละเอียดแล้ว เห็นว่าตรงตามเจตนาและวัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่าย จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสําคัญต่อหน้าพยาน และต่างยึดถือไว้เป็นหลักฐานฝ่ายละหนึ่งฉบับ

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง