ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.มติชน 24 พ.ค. 55-นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายลดความเหลื่อมล้ำ3 กองทุนสุขภาพ ซึ่งเตรียมขยายไปยังกลุ่มผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายและกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีว่า เมื่อวันที่22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตัวแทนจากกองทุนประกันสังคม กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้ร่วมหารือถึงแนวทางปฏิบัติ ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็น เพียงข้อเสนอ ยังไม่ได้สรุป เนื่องจากต้องมีการประชุมย่อยในการรวบรวมเพียงข้อเสนอ ยังไม่ได้สรุป เนื่องจากต้องมีการประชุมย่อยในการรวบรวมข้อมูลอีกครั้ง เพื่อสรุปเป็นแนวทางให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในการประชุมใหญ่ เกี่ยวกับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ3 กองทุน ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้

"สำหรับข้อเสนอในที่ประชุมนั้น โดยหลักๆ คือ จะต้องให้กลุ่มผู้ป่วยโรคไต และผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับการบริการ และการรักษาที่เท่าเทียมทั้งหมด เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ต้องได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวี ปัจจุบันมีเกณฑ์กำหนดการรับ ยาต้านไวรัส ซึ่งพิจารณาจากค่าซีดีโฟว์ CD4 หรือปริมาณเชื้อไวรัส ซึ่งจะต้องกำหนดว่าควรอยู่ที่จำนวนเท่าใด เพราะขณะนี้ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กำหนดให้สามารถรับยาต้านไวรัสเอชไอวีได้เมื่อมีค่าซีดีโฟว์ที่ระดับ200 แต่กองทุนประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ไม่ทราบว่ามีการกำหนดเกณฑ์อย่างไร" นพ.วินัยกล่าว และว่า ล่าสุด ได้เชิญ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ดำเนินการศึกษาเรื่องนี้เพื่อกำหนดเป็นค่ามาตรฐานกลางให้ทั้ง 3 กองทุนใช้เหมือนกัน รวมทั้งการให้ยาต้านไวรัสก็จะมีการ ใช้สูตรพื้นฐานเหมือนกัน ขณะที่ผู้ป่วยไต ก็อยู่ระหว่างกำหนดแนวทางเช่นกัน