ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

จากการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมพิจารณาเรื่องรายงานการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ที่ระบุว่า ให้คณะกรรมการกันเงินจำนวนไม่เกินร้อยละ 1 ของเงินที่จะจ่ายให้หน่วยบริการไว้เป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้รับบริการ ในกรณีที่ผู้รับบริการได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการ โดยหาผู้กระทำผิดมิได้หรือหาผู้กระทำผิดได้ แต่ยังไม่ได้รับค่าเสียหายภายในระยะเวลาอันสมควร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่ง สตง.ได้มีหนังสือถึงประธานกรรมการ สปสช. รายงานการตรวจสอบการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามมาตรา 41 ทั้งมีข้อเสนอ คือ 1.ขอให้คณะกรรมการ สปสช.ทบทวนการแก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ 2.ขอให้กำหนดกระบวนการหรือแนวทางดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 42 และ 3.ขอให้กำหนดมาตรการ เพื่อให้คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นระดับจังหวัด พิจารณาดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ในข้อบังคับฯ

นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมมีมติยืนยันให้ใช้ข้อบังคับฯใหม่ตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค.นี้ และให้ยึดหลักการ “การช่วยเหลือที่ไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด” เหมือนเดิม ส่วนกรณีการพัฒนาระบบการพิจารณาของคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดนั้น ให้ สปสช.ดำเนินการตามข้อเสนอของ สตง. ทั้งนี้ สำหรับอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามข้อบังคับฯใหม่มีดังนี้ 1.กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวร มีการชดเชยเพดานสูงสุดไม่เกิน 400,000 บาท 2.กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการ มีการชดเชยเพดานสูงสุดไม่เกิน 240,000 บาท และ 3.กรณีบาดเจ็บมีการชดเชยเพดานสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

ที่มา: http://www.thairath.co.th