ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เอาจริงนายจ้างค้างชำระเงินสมทบจัดทีมเฉพาะกิจเจ้าหน้าที่ผู้ผ่านการฝึกอบรมตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามเร่งรัดหนี้และยึด อายัดทรัพย์สิน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตนและรักษาเสถียรภาพของกองทุนพร้อมปล่อยขบวนรถคาราวาน ออกตรวจสอบตามสถานประกอบการทั่วประเทศ ณ สำนักงานประกันสังคม จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในฐานะเป็นประธานเปิดงานกิจกรรมมอบวุฒิบัตร เหรียญตรา และพิธีปล่อยคาราวานรถยนต์ออกตรวจสอบสถานประกอบการทั่วประเทศว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มีภารกิจหลักในการบริหารกองทุนประกันสังคม เพื่อเป็นหลักประกันให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน ได้รับสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม 7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย ทุพพลภาพตาย คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน บริหารกองทุนเงินทดแทน โดยให้ความคุ้มครอง เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยทุพพลภาพ สูญหาย หรือถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงาน รวมทั้งรับผิดชอบดำเนินการให้สถานประกอบการ และนายจ้างชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สามารถขอรับสิทธิประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันมีสถานประกอบการและนายจ้างบางส่วนไม่ชำระเงินสมทบภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือชำระไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดเงินสมทบค้างชำระ โดยตัวเลข ณ วันที่ 5 พ.ค.56 มีจำนวนเงินสมทบที่ค้างชำระทั้งสิ้น 3,665.39 ล้านบาท โดยในปี 2556 สปส.ได้กำหนดแนวทางการติดตามเร่งรัดหนี้เงินสมทบ มีเป้าหมายให้เงินสมทบค้างชำระลดลงจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยทบทวนแนวทางและวิธีการปฏิบัติในการตรวจติดตามเร่งรัดหนี้เงินสมทบ ตลอดจนการยึด อายัดทรัพย์สินเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้มีเกิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามเร่งรัดหนี้และยึด อายัดทรัพย์สินขึ้น โดยจัดฝึกอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นข้าราชการระดับชำนาญการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 60 คน มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถ เพื่อให้มีความพร้อมทางร่างกายในการปฏิบัติงาน แต่งตั้งเป็นชุดเฉพาะกิจ เพื่อทำหน้าที่ออกตรวจสอบสถานประกอบการทั่วประเทศในการเร่งรัดหนี้เงินสมทบ และยึด อายัดทรัพย์สิน

สำหรับแผนการตรวจสอบและกลุ่มเป้าหมายสถานประกอบการที่ได้รับการตรวจสอบในความรับผิดชอบของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา จำนวน 21 หน่วยปฏิบัติ รวมกลุ่มเป้าหมายสถานประกอบการที่มีเงินสมทบค้างชำระทั้งสิ้น 21,201 รายเป็นจำนวนเงินสมทบโดยประมาณ 2,742.41 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาในการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน - 30 สิงหาคม 2556 โดยกำหนดแนวทางการตรวจสอบเป็น 2 แนวทาง ดังนี้ แนวทางที่ 1 การออกตรวจสอบ ณ สถานประกอบการสำหรับสถานประกอบการที่มีสถานะ A (ดำเนินกิจการอยู่) ที่ค้างชำระเงินสมทบ 6 เดือนขึ้นไป และมีเงินสมทบค้างชำระตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป แนวทางที่ 2 การตรวจแฟ้มลูกหนี้กองทุนประกันสังคม ณ หน่วยปฏิบัติสำหรับสถานประกอบการที่มีสถานะS (หยุดกิจการชั่วคราว) และสถานะ C (เลิกกิจการ) ทุกราย รวมทั้งสถานประกอบการที่มีสถานะ A นอกเหนือจากการออกตรวจสอบ ณสถานประกอบการตามแนวทางที่ 1

ทั้งนี้ การออกตรวจติดตามเร่งรัดหนี้และยึด อายัดทรัพย์สินในลำดับแรก เป็นสถานประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่จำนวน 6 หน่วยปฏิบัติระหว่างวันที่ 5-21 มิถุนายน 2556 หาก สปส.ดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะทำให้ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆจากการประกันสังคมได้อย่างรวดเร็ว ลดหนี้ค้างชำระกองทุนประกันสังคมสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างเสถียรภาพให้กับกองทุน เพื่อจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนได้ในระยะยาวและยั่งยืน--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 11 มิถุนายน 2556