ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วย รมว.แรงงาน (รง.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการบูรณาการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เข้ากับกองทุนประกันสังคม ตาม พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 40 ว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วัน ที่ 18 มิถุนายน กระทรวงแรงงานจะเสนอร่างพระราชกฤษฏีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทประโยชน์ทดแทน หลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่...) พ.ศ...ให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบการเพิ่มทางเลือกที่ 3 ในมาตรา 40 แก่แรงงานนอกระบบ (อาชีพอิสระ) ให้ได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพอย่างเดียว (แบบ กอช.) เพื่อเป็นหลักประกันผู้ประกันตนอย่างยั่งยืน

สำหรับกรณีสิทธิประโยชน์มาตรา 40 (ทางเลือกที่ 3 ) ให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีชราภาพเท่านั้น ผู้สมัครอายุ 15-60 ปี แต่ปีแรกจะออกบทเฉพาะกาลให้ผู้ที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี เข้าสู่ระบบได้ รวมทั้งกำหนดให้ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบ 100 บาทต่อเดือน และรัฐจ่ายสมทบ 100 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ กรณีชราภาพผู้ประกันตนจะได้รับบำนาญหรือบำเหน็จหรือบำเหน็จเมื่ออายุ 60 ปี และยุติการเป็นผู้ประกันตน แต่กรณีสมาชิกเสียชีวิต การจ่ายเงินสมทบทั้งหมดพร้อมดอกผล คืนให้สามี ภรรยา บิดา มารดา หรือบุตรผู้ประกันตนเป็นบำเหน็จ

ปัจจุบันการส่งเงินสมทบแนวทางแรก เงินเข้ากองทุน 100 บาทต่อคนต่อเดือน (ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท รัฐจ่าย 30 บาท) ได้สิทธิ 3 กรณี มี 1.เงินทดแทนการขาดรายได้ 2.เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ และ 3.ค่าทำศพ แนวทางที่ 2 เก็บเงินสมทบ 150 บาท (ผู้ประกันตน 100 บาท รัฐ 50บาท) คุ้มครอง 4 กรณีคือ 3 กรณีเหมือนแนวทางแรก แต่เพิ่มบำเหน็จชราภาพ ถ้าตามมาตรา 40 (ทางเลือกที่ 3 ) ผ่าน ครม.ผู้ประกันตนจะได้รับการคุ้มครองเพิ่ม

ตาม พ.ร.บ กองทุนแห่งชาติ พ.ศ.2554 ให้สมาชิก กอช.จ่ายเงินออมไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท และรัฐจ่ายเงินตามระดับอายุของสมาชิก แต่ไม่เกินปีละ 600-1,200 บาท คาดว่าภายใน 5ปี (2557-2561) จะมีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทั้ง 3 ทางเลือก จำนวน 21.4 ล้านคน และรัฐต้องส่งเงินอุดหนุนกองทุนจำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 13 มิถุนายน 2556

เรื่องที่เกี่ยวข้อง