ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปัจจุบันมักมีเหตุการณ์รุนแรงเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมอยู่บ่อยครั้ง หนักบ้าง เบาบ้างแล้วแต่กรณี

ที่สำคัญสภาวะแวดล้อมเหล่านั้นล้วนแต่เป็นที่อาศัยของพืชและสัตว์มีชีวิตหลายชนิด ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร เช่น สารตะกั่ว

สารตะกั่วเป็นโลหะหนักที่เป็นพิษที่มีอยู่คู่กับคนมาตลอด ทุกวันนี้ร่างกายเราได้รับจากทั้งควันเสียจากรถยนต์ตามท้องถนนที่มีจราจรคับคั่ง จากน้ำและอาหาร แต่จะได้รับในปริมาณมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการอยู่และวิธีการกินของแต่ละคน

คนไทยเราโชคดีเพราะมีผลไม้กินเกือบทุกฤดูกาลแตกต่างกันไป จะมีที่เหลือรับประทานก็นำมาหมัก ดอง และอบแห้งเพื่อเก็บไว้กิน หรือในรายที่มีผลผลิตออกมามากก็อาจทำเป็นระดับอุตสาหกรรมได้

ผลไม้อบแห้งส่วนใหญ่ที่เห็นในบ้านเราตามตะเข็บชายแดน เป็นของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเราไม่อาจทราบได้ว่ากรรมวิธีการผลิตที่ใช้ หรือวัตถุดิบผลไม้ที่นำมาผลิตมีแหล่งเพาะปลูกจากที่ใด

หากเป็นผลไม้ที่ปลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่โรงงานอุตสาหกรรมหรือเป็นแหล่งที่มีการปนเปื้อนของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว อยู่ก่อนแล้ว ก็มีโอกาสที่ผลไม้อบแห้งเหล่านั้นจะมีตะกั่วปนเปื้อนอยู่ด้วย

เมื่อร่างกายได้รับสารตะกั่วเข้าไปและสะสมอยู่เป็นเวลานาน จะมีผลต่อเซลล์ไขกระดูก ระบบประสาท ระบบไต อาจเป็นตะคริวบ่อย กระหายน้ำ ปวดท้องรุนแรง ในบางรายอาจมีอาการท้องร่วงเป็นพักๆ หรืออาจหนักจนถึงขั้นเป็นอัมพาต สมองบวม และชักได้

วันนี้ สถาบันอาหารได้ทำการสุ่มตัวอย่างผลไม้อบแห้งที่วางจำหน่ายตามด่านชายแดนไทย-ลาว เพื่อนำมาวิเคราะห์หาการตกค้างของสารตะกั่ว

ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขของไทย ฉบับที่ 98 พ.ศ.2529 กำหนดให้พบตะกั่วปนเปื้อนในอาหารได้ไม่เกิน 1 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม

วันนี้ น่าดีใจแทนผู้บริโภคชาวไทยที่ผลการวิเคราะห์ผลไม้อบแห้ง ทั้ง 5 ตัวอย่าง ที่นำเข้าจากเวียดนามและลาว ตรวจไม่พบการตกค้างของสารตะกั่วเลย.

ที่มา: http://www.thairath.co.th