ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ครม. ไฟเขียว รื้อภาษีสุราใหม่ทั้งหมด พร้อมปรับวิธีคำนวณภาษี พร้อมขยายเพดานภาษีไวน์-เบียร์ 100 บาท เป็น 2,000 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ พร้อมออก พ.ร.ก.ตั้งกองทุน กสพ. ดึงภาษีสรรพสามิตสุรา ร้อยละ 1.5-2 ตั้งกองทุน คล้าย สสส.

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (27 ส.ค.) กระทรวงการคลังได้เสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเรื่องปรับแก้ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 โดยออกประกาศเป็นกฎกระทรวงแก้ไข ในส่วนของการขยายเพดานภาษีสรรพสามิต โดยเรื่องดังกล่าวได้เสนอเข้ามาเป็นวาระลับและมีการเก็บเอกสารคืนภายหลังการประชุม

แหล่งข่าวกล่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอต่อครม.ว่า การแก้ไข พ.ร.บ.ในครั้งนี้ มีสาระสำคัญ คือ จะมีการเปลี่ยนวิธีการคำนวณภาษีสรรพสามิตสุรา จากเดิมใช้การคำนวณ 2 แบบ ทั้งในเชิงมูลค่าและในเชิงปริมาณตามดีกรีแอลกอฮอล์ โดยเลือกวิธีที่จัดเก็บภาษีได้สูงสุด เปลี่ยนมาเป็นการจัดเก็บทั้งสองแบบ

ขณะเดียวกัน ได้เปลี่ยนวิธีการคำนวณต้นทุนภาษีสรรพสามิต ในเชิงมูลค่าจากเดิมสุราในประเทศให้ใช้ราคาต้นทุนหน้าโรงงานมาคำนวณภาษี ในขณะที่สินค้าสุรานำเข้าให้ใช้ราคาซีไอเอฟ (ราคาส่งมอบซึ่งคิดแต่เฉพาะค่าต้นทุนสินค้าบวกค่าขนส่ง ไม่คิดค่าประกันสินค้า) เปลี่ยนเป็นมาใช้ราคาขายปลีก หรือราคาขายส่งขั้นสุดท้าย มาใช้ในการคำนวณภาษีแทน

นอกจากนี้ จะมีการแก้ไขเพดานภาษีสุราแช่ ซึ่งประกอบด้วยไวน์และเบียร์ ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บเต็มเพดาน ทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ โดยจัดเก็บในอัตราร้อยละ 60และ 100 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ เป็นการขยายเพดานสูงสุด 2,000 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ ขณะที่สุรากลั่น ประเภทวิสกี้ บรั่นดี และ สุราปรุงพิเศษ ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บเต็มเพดานที่ร้อยละ 50 ในเชิงมูลค่า และ 400 บาทต่อลิตร ให้ขยายเพดานสูงสุดที่ 2,000 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ เช่นเดียวกัน แต่อัตราจัดเก็บที่แท้จริงจะมีการกำหนดอีกครั้ง เนื่องจากการจัดเก็บจะทำทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ

นอกจากนี้ประเด็นสำคัญซึ่งเป็นเรื่องใหม่ในร่าง พ.ร.ก. ดังกล่าว จะมีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมและพัฒนาภารกิจกรมสรรพสามิต หรือใช้ชื่อย่อว่า กสพ. โดยมีรูปแบบและแหล่งที่มาของกองทุน คิดจากภาษีสรรพสามิตสุรา ร้อยละ 1.5-2 เป็นรูปแบบเดียวกับการจัดตั้ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุน เพื่อช่วยเหลือคนพิการ ส่งเสริมการศึกษา รวมทั้งใช้ดำเนินการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกรมสรรพสามิต โดยให้กรมสรรพสามิตเป็นผู้บริหาร คาดว่าจะจัดเก็บเพื่อตั้งกองทุนได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 28 สิงหาคม 2556