ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

น.ส.รัชฎา ฟองธนกิจ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริการผู้สูงอายุมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก เนื่องจากประเทศไทยมีผู้สูงอายุกว่า 12.5% จากประชากรทั้งหมด ถือว่ากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐจะต้องเตรียมความพร้อมรับมือสังคมสูงอายุมากกว่านี้ โดยเร่งผลักดันมาตรฐานผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุเพราะขณะนี้มีเนิร์สเซอรีดูแลคนชรามากกว่า 3,000 แห่ง แต่ไม่มีกฎหมายบังคับให้จดทะเบียน ทำให้แต่ละแห่งมีมาตรฐานแตกต่างกันไป

ขณะเดียวกัน ภาครัฐควรปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุให้มีหน่วยงานหลักรับผิดชอบชัดเจนโดยขณะนี้ภารกิจกระจายอยู่ทั้งในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทยและบางส่วนที่เกี่ยวกับการอบรมบุคลากรก็อยู่กับกระทรวงศึกษาธิการทำให้ไม่เป็นเอกภาพ

นอกจากนี้ ยังควรปรับปรุงระเบียบให้อยู่ในหน่วยงานเดียวเพราะธุรกิจบริการผู้สูงอายุไม่ได้มีแค่ตลาดในประเทศ แต่ยังเกี่ยวกับนโยบายเมดิคัลฮับ เช่น โฮมสเตย์สำหรับชาวต่างชาติที่เกษียณอายุและต้องการพักอาศัยในประเทศไทยระยะยาว ซึ่งจากการวิจัยพบว่าผู้สูงอายุญี่ปุ่นอยากอยู่ในประเทศไทย แต่เลือกไปมาเลเซียมากกว่า เพราะประเทศไทยต้องติดต่อหลายขั้นตอน

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่ 9กันยายน 2556