ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรุงเทพธุรกิจ - ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) และภาคีป้องกันอุบัติเหตุ จัดสัมมนา เรื่อง ความปลอดภัยทางถนนครั้งที่ 11 หัวข้อ "สิทธิกับความปลอดภัยทางถนน" (Rights and Road Safety) เมื่อวันที่ 11-12 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่นำความสูญเสียเป็นอย่างมากมาสู่ประเทศและประชาชน กระทั่งองค์การสหประชาชาติก็ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวจึงได้ยกระดับให้เป็นวาระของโลก โดยประกาศให้ ปี พ.ศ. 2554 - 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ให้ประเทศสมาชิกยกระดับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนโดยกำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตลงร้อยละ50 ภายในปี 2563  รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐตระหนักและเล็งเห็นว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นสิ่งที่ "ป้องกันและลดความสูญเสียลงได้" จึงกำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบกับคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบให้ปี พ.ศ. 2554 - 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยบูรณาการการดำเนินงาน ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคนในปี 2563

รองปลัดกระทรวงมหาดไทยยังกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้วางแนวทางการขับเคลื่อนงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนไว้ 3 ระยะ ได้แก่ระยะสั้น มีคณะกรรมการนโยบาย การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) มีมติเมื่อ 18 ต.ค.56 เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ ระยะกลางขับเคลื่อนในช่วงระยะเวลา 4 ปี ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้จัดทำ แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2556-2559 โดยมีวิสัยทัศน์ร่วมกันสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล  ส่วนระยะยาว เวลา 10 ปี พ.ศ.2554-2563  มีแผนที่นำทางเชิงกลยุทธ์ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2554-2563--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ