ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ 855 แห่ง ระดมกำลังแพทย์เชี่ยวชาญอุบัติเหตุ พยาบาล เจ้าหน้าที่ เต็มพิกัดกว่า 160,000 คน ประจำห้องฉุกเฉิน   เตรียมหอผู้ป่วยไอซียู  คลังเลือดทุกหมู่  เครื่องช่วยหายใจ ดูแลรักษาผู้บาดเจ็บอุบัติเหตุจราจรและป่วยฉุกเฉินในเทศกาลสงกรานต์ 11-17 เมษายน 2557  ตลอด 24 ชั่วโมง และระดมทีมแพทย์กู้ชีพทุกระดับทั้งรัฐ-เอกชนกว่า 14,000ทีม พร้อมออกปฏิบัติทันทีหลังรับแจ้งเพื่อป้องกันเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด  ประชาชนโทรขอรับความช่วยเหลือได้ฟรีที่ 1669 ไม่จำกัดเวลา และให้อสม.รพ.สต.ร่วมกับองค์กรท้องถิ่นทุกแห่ง ตั้งด่านสกัดคนเมาไม่ให้ขับรถออกนอกบ้าน   

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึง ซึ่งมีวันหยุดยาว 5 วัน  คาดว่าประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับไปฉลองสงกรานต์หรือไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัด กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าหมายจะลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร รวมทั้งการป่วยฉุกเฉินจากโรคต่างๆ  ให้ได้มากที่สุด  โดยได้หน่วยงานในสังกัดทุกจังหวัด วางมาตรการความพร้อมไว้ 3 ระบบ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 -17 เมษายน 2557   ได้แก่ 1. การจัดบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ทุกระดับ เพื่อดูแลช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ที่จุดเกิดเหตุ โดยร่วมกับโรงพยาบาลนอกสังกัดและเอกชน มูลนิธิต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่  ซึ่งมีทีมและรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ประมาณ 14,000 ทีม   ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง   หลังรับแจ้ง ทีมแพทย์กู้ชีพ สามารถออกเดินทางถึงที่เกิดเหตุภายใน 10 นาที เพื่อปฏิบัติการดูแลช่วยชีวิตแบบมืออาชีพ และนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลต่างๆอย่างปลอดภัยที่สุด  

2.การดูแลผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยฉุกเฉินทุกประเภทในโรงพยาบาล ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศซึ่งมี 855 แห่ง จัดแพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุ ประจำการห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง  และเตรียมแพทย์เชี่ยวชาญการผ่าตัดทุกสาขา  พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่นๆ รวมกว่า 160,000 คน  สำรองเตียงผู้ป่วย ห้องไอซียู เครื่องช่วยหายใจ  ห้องผ่าตัด  คลังเลือดทุกหมู่ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์  เพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่รวมทั้งวางระบบการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการหนักไปโรงพยาบาลอื่นๆ อย่างคล่องตัวและปลอดภัย

3.มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนซึ่งเรื่องที่เป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บและเสียชีวิต ทุกเทศกาลสำคัญทุกปีคือการดื่มสุราและขับ  ในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรวจเตือน ขอความร่วมมือร้านค้าทุกประเภทให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และระดมพลังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม.กว่า 1 ล้านคน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งด่านสกัดคนเมาในหมู่บ้าน เมื่อดื่มแล้วห้ามขับรถทุกชนิดออกจากหมู่บ้าน                        

ส่วนประชาชนทั่วไป ให้ใช้อุปกรณ์นิรภัย คือให้สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ส่วนผู้ใช้รถยนต์ให้คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ว่าจะขับระยะทางใกล้หรือไกลก็ตาม       

“ประการสำคัญขอแนะนำประชาชนที่พบผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน   หากเป็นไปได้  ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเอง  เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตผู้ป่วยหรือทำให้ผู้ป่วยเกิดความพิการ โดยเฉพาะในรายที่มีกระดูกหักในที่ไม่มีบาดแผลปรากฏให้เห็นเช่น มีกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลังหัก ขอให้โทรแจ้งทีมแพทย์ กู้ชีพ ซึ่งเป็นผู้มีความชำนาญ และจะเกิดความปลอดภัยมากขึ้น ” นายแพทย์ณรงค์กล่าว