ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

ช่วงสายของวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ทีมสารนิเทศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ส่งข้อความ SMS ถึงผู้สื่อข่าวเพื่อแจ้งกำหนดการณ์“ด่วน! วันนี้ 10 น.ปลัดฯ สธ.ให้สัมภาษณ์ หลังมีข่าวจากสื่อมวลชนว่าถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง / ห้องประชุมชั้น 3 ตึกสป.สธ.

ถึงเวลานัดหมาย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ. ในชุดเครื่องแบบข้าราชการสีกากี นั่งหัวโต๊ะ “ยังไม่เห็นข่าวเลยครับ” คือประโยคแรกที่ นพ.ณรงค์ ออกตัว

นาทีต่อมา ทีมงานได้ส่งเนื้อข่าวตามที่ได้ปรากฏในสื่อมวลชนให้ปลัดสธ.อ่าน นพ.ณรงค์ อ่านแล้วยิ้ม-หัวเราะ ก่อนจะเปรยว่า “ชีวิตมันมีรสชาติจริงๆ”

ก่อนจะเปิดฉากแถลงข่าวว่า “ผมทราบข่าวจากสื่อเมื่อช่วงบ่ายๆ ค่ำๆ เมื่อวานว่ามีการตั้งกรรมการ แต่ตัวผมเองยังไม่ได้รับหนังสือ”นอกจากนี้ นพ.ณรงค์ ยังกล่าวอ้างต่อไปว่า “มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาที่กระทรวง แต่ไม่ได้ใส่ซอง ผมเลยส่งไปปรึกษาสำนักบริหารกลาง เพราะจริงๆ แล้วพวกหนังสือลับเหล่านี้จะต้องใส่ซอง”

ชวนให้นึกสงสัย เหตุใดช่วงแรกปลัดณรงค์จึงบอกว่ายังไม่เห็นข่าว และเหตุใดครู่ต่อมาจึงบอกว่าทราบข่าวนี้แล้วตั้งแต่เมื่อวาน

ข่าวการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นพ.ณรงค์ นับเป็นประเด็นใหญ่ในวงการสาธารณสุข นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง เพราะตั้งแต่ที่ นพ.ณรงค์ ประกาศจุดยืนแตกหักกับ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นี่เป็นครั้งแรกที่ นพ.ณรงค์ ได้รับ “ก้อนอิฐ” หนำซ้ำเป็นก้อนอิฐที่ นพ.ประดิษฐ บรรณาการส่งตรงให้ถึงที่

อย่างไรก็ดี หนังสือคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงฉบับดังกล่าว มี “ข้อพิรุธ” ที่น่าสงสัยใน 2 ประเด็น1.หนังสือดังกล่าวน่าที่จะออกมาอย่างเร่งรีบ เนื่องจากพบการสะกดคำและการเรียบเรียงข้อความที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง 2.เนื้อหาในหนังสือให้น้ำหนักกับกรณีที่ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถูกกระทำมากเป็นพิเศษ

ต่อไปนี้คือเนื้อหาโดยละเอียดของคำสั่งดังกล่าว

คำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 573/2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง

ด้วยนายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เลขประจำตัวประชาชน ... ข้าราชพลเรือนสามัญ ผู้บริหารระดับสูง ตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เลขที่ตำแหน่ง ... มีกรณีที่ควรกล่าวหาว่ามีมูลกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องดังต่อไปนี้

1.นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ มีพฤติกรรมสั่งการหรือให้มีการเรียกหรือประชุมข้าราชการ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมาประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข โดยอ้างภารกิจในราชการของกระทรวงสาธารณสุขและให้ใช้งบประมาณหรือทรัพย์สินของทางราชการ แต่เมื่อมีการประชุมจริงกลับประชุมหรือดำเนินการเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง เหตุเกิดระหว่างเดือนธันวาคม 2556 ถึงเดือนมกราคม 2557

2.มีพฤติกรรมเข้าร่วมประชุมกับคณะบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “ประชาคมสาธารณสุข” ในสถานที่ราชการและทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแล้วสั่งการหรือสนับสนุนให้ออกแถลงการณ์ในนามประชาคมสาธารณสุข วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลให้ปรากฏแก่ประชาชนโดยผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งมีข้อความในลักษณะให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาล เช่น กล่าวหารัฐบาลว่ามีการคอรัปชั่นเชิงนโยบาย และหมดความชอบธรรม เสนอให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งตามข้อเสนอของกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมที่อ้างว่าเป็น “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)” และในแถลงการณ์ดังกล่าวได้มีข้อความเสนอให้รัฐบาลลาออกทันที เพื่อให้เกิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง การแสดงจุดยืนว่าจะแสดงออกทุกวิถีทางที่จะไม่รับฟังคำสั่งรัฐบาลและไม่ร่วมทำงานกับรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งก่อนการยุบสภาและระหว่างการยุบสภาผู้แทนราษฏรโดยให้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฏรแล้ว

นอกจากการที่ได้แสดงออกร่วมกับกลุ่มประชาคมสาธารณสุขแล้ว นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ยังมีพฤติกรรมต่อเนื่องสนับสนุนหรือสั่งการให้มีการขึ้นป้ายตามโรงพยาบาล สำนักงานสาธารสุขจังหวัด และหรือหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีความหมายนัยเป็นทางการเมืองและมีข้อความที่สนับสนุนกลุ่ม กปปส.และต่อต้านรัฐบาล เช่น “เราไม่ต้องการรัฐบาลโกง” “ประณามการใช้ความรุนแรง รัฐบาลต้องรับผิดชอบ” “นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ท้าทายอำนาจรัฐเรียกร้องรัฐบาลลาออกและเร่งปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง”

ขณะเดียวกันนายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ยังถือโอกาสขณะเดินทางไปราชการต่างจังหวัดทั้งในและนอกเวลาราชการ ใช้สถานที่ราชการหรือสถานที่ของเอกชน รวมทั้งใช้งบประมาณและทรัพย์สินของทางราชการ ประกาศเชิญชวนให้ข้าราชการและประชาชนร่วมกันต่อต้านรัฐบาล และสนับสนุนข้อเสนอของ กปปส.เช่น การเชิญชววนหรือสั่งการ หรือรู้เห็นเป็นใจให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.มาแสดงออกที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านรัฐบาลที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 และนายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เป็นผู้รับมอบนกหวีดทองคำจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งที่รู้หรือควรรู้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นการแสดงถึงนัยการมืองที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มอบให้กับบุคคลหรือคณะบุคคลที่สนับสนุนตามแนวทางของ กปปส.และร่วมกันต่อต้านรัฐบาล ซึ่งพฤติกรรมของนายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ดังกล่าว เป็นต้นเหตุหรือส่งเสริมหรือสนับสนุนหรือเอื้อให้กลุ่มข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข หรือประชาชน ออกมาชุมนุมหรือแสดงออกถึงนัยทางการเมืองในการประท้วงรัฐบาลร่วมกับ กปปส.

ขณะเดียวกันเป็นต้นเหตุหรือส่งเสริม สนับสนุน หรือเอื้อให้ข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข หรือประชาชน ที่มีความเห็นแย้งและต้องการให้มีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ เดินชุมนุมประท้วงที่กระทรวงสาธารณสุขหรือตามสถานที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด เช่น กลุ่มนปช.ให้ปิดโรงพยาบาล และปลดป้ายการต่อต้านรัฐบาลลง การขับไล่ผู้อำนวยการ ได้แก่ โรงพยาบาลน้ำพอง โรงพยาบาลอุบลรัตน์ หรือกรณีชาวบ้านบุกโรงพยาบาลหนองบัว จ.นครสวรรค์ หรือกรณีการกล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขตกต่ำอันเป็นการสร้างความแตกแยกอย่างรุนแรง ระหว่างข้าราชการด้วยกัน และข้าราชการกับประชาชน

3.สั่งการหรือสนับสนุนให้ข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข หรือประชาชน มาให้การสนับสนุนกลุ่ม กปปส.และให้กำลังใจตนเองที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2557 โดยให้มีการใช้งบประมาณของทางราชการทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับกิจการหรือภารกิจหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข และเป็นการใช้อำนาจหน้าที่สั่งการหรือสนับสนุนในเรื่องที่มิใช่เกี่ยวกับทางราชการ และก่อเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และสนับสนุนหรือสั่งการให้ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขไปร่วมชุมนุมปิดกรุงเทพ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557

4.สั่งการหรือสนับสนุนให้มีการรายงานเกี่ยวกับการเดินทางไปราชการที่ จ.ระยอง อันเป็นการไม่ตรงตามความจริง กล่าวคือเมื่อวันที่ 9-10 มกราคม 2557 นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ได้ขออนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปราชการที่ จ.ระยอง ในวันที่ 10 มกราคม 2557 และเสนอขอแต่งตั้ง นายชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวง เป็นผู้รักษาราชการแทน โดยนายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ได้เดินทางไป จ.ระยอง ตั้งแต่เย็นของวันที่ 9 มกราคม 2557 และให้มีหนังสือแจ้งเรื่องที่ตนไปราชการที่ จ.ระยอง และแต่งตั้งนายชาญวิทย์ ทระเทพ รักษาราชการแทน ให้นายชาญวิทย์ ทระเทพ ทราบ ทั้งๆ ที่การเดินทางไปราชการดังกล่าว ยังไม่ได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และยังไม่ลงนามในหนังสือแต่งตั้งนายชาญวิทย์ ทระเทพ ให้รักษาราชการแทน

โดยในวันที่ 10 มกราคม 2557 นายชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เชื่อว่าตนมีหน้าที่ต้องรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่สั่งการในเรื่องการปฏิบัติราชการของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ระหว่างการชุมนุม ซึ่งได้สั่งการไปยังหน่วยงานระดับกรมในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยนายชาญวิทย์ ทระเทพ ได้ลงนามแจ้งหนังสือดังกล่าวให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทราบ และถือปฏิบัติ แต่นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ กลับสั่งการหรือให้มีการออกหนังสือยกเลิกนายชาญวิทย์ ทระเทพ รักษาราชการแทน ในวันที่ 10 มกราคม 2557 ซึ่งได้สั่งการหรือให้มีการออกหนังสือยกเลิกดังกล่าว และออกเลขหนังสือย้อนหลังเป็นวันที่ 10 มกราคม 2557 พร้อมทั้งนายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ได้ออกมายืนยันและออกแถลงการณ์ผ่านสื่อต่างๆ ว่า ตนอยู่ปฏิบัติราชการที่กระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 10 มกราคม 2557 และยังสนับสนุนหรือสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกแถลงการณ์หรือให้ข่าวยืนยันว่าตนอยู่ปฏิบัติการที่กระทรวงสาธารณสุข พร้อมได้กล่าวอ้างว่าการที่นายชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในหนังสือสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องการปฏิบัติราชการของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ระหว่างการชุมนุมนั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และอ้างว่าหนังสือสั่งการของนายชาญวิทย์ ทระเทพ ดังกล่าว ไม่มีผลในทางปฏิบัติ

จึงเป็นต้นเหตุหรือทำให้ข้าราชการในส่วนภูมิภาค หรือข้าราชการที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวตั้งข้อรังเกียจหรือเกลียดชังนายชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ากระทำการข้ามหน้าข้ามตาปลัดกระทรวงสาธารณสุข และรับใช้นักการเมือง จนเป็นเหตุให้วันที่ 13 มกราคม 2557 เวลาเช้า นายกุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ติดแผ่นป้ายมีข้อความว่า“ขี้ข้าชาญวิทย์ ออกไปจากสธ.” และขัดขวางไม่ให้ข้าราชการทำงาน และได้ร่วมหรือนำผู้ชุมนุมหลายสิบคนเข้ามาปิดกั้นการทำงานของข้าราชการที่ไม่เข้าร่วมกับ กปปส.รวมทั้งนายกุลเดช เตชะนภารักษ์ และผู้ชุมนุมหลายคน ได้บุกรุกเข้าไปในห้องทำงานของนายชาญวิทย์ ทระเทพ ข่มขู่คุกคามเลขานุการของนายชาญวิทย์ ทระเทพ ทำร้ายคนขับรถ และใช้กำลังบังคับไม่ให้เข้าทำงาน รวมทั้งมีการด่าว่าอย่างหยาบคาย กล่าวหาว่าไม่เลือกอยู่ฝ่ายเดียวกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อว่าเรื่องการลงนามในหนังสือที่กำชับให้หน่วยงานในภูมิภาคอยู่ในพื้นที่ตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งทำลายทรัพย์สินของทางราชการ คือป้ายบอกชื่อและตำแหน่งที่ติดของนายชาญวิทย์ ทระเทพ และนายกุลเดช เตชะนภารักษ์ ยังให้สัมภาษณ์ว่า นายชาญวิทย ทระเทพ ลงนามในคำสั่งที่ผิดปกติ ไม่ใช่อำนาจของนายชาญวิทย์ ทระเทพ เป็นการกระทำข้ามหน้าข้ามตาปลัดกระทรวงสาธารณสุข และรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ด้านบริหาร) ที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ กลับให้สัมภาษณ์ว่า เป็นสิทธิส่วนตัวในการแสดงความคิดเห็นและไม่ปรากฏหลักฐานว่านายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ได้ดำเนินการตามหนังสือสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับหนังสือสั่งการดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการเจตนาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งการของผู้บังคับบัญชา

5.นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ มีพฤติกรรมสั่งการเกี่ยวกับการมอบหมายอำนาจหน้าที่ราชการของปลัดกระทรวงกลุ่มภารกิจ เช่น ทางด้านการแพทย์ ซึ่งนายชาญวิทย์ ทระเทพ ในฐานะรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงตามกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวง ไปให้รองปลัดกระทรวงท่านอื่นและผู้ตรวจราชการกระทรวงปฏิบัติราชการแทน โดยตนเองไม่มีอำนาจในการสั่งการหรือมอบอำนาจดังกล่าว ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการไม่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ  และเกิดความแตกแยกระหว่างผู้บริหารระดับสูงด้วยกัน

ทั้ง นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ได้แสดงพฤติกรรมต่อเนื่องทั้งที่มีการสั่งการด้วยตนเอง และหรือสนับสนุน หรือเอื้อให้เกิดการกระทำทั้ง 5 ประเด็น

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ประกอบกับข้อ 15 ของกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 จึงแต่งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อสอบสวนนายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้

1.นายสุรชัย ศรีสารคาม เป็นประธานกรรมการ (นักบริหารระดับสูง ตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)

2.พันตำรวจเอกสุชาติ วงศ์อนันตชัย เป็นกรรมการ (นักบริหารระดับสูง ตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์)

3.นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ เป็นกรรมการและเลขานุการ (ตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักอัยการพิเศษ ฝ่ายสัญญาและหารือ 2สำนักที่ปรึกษาทางกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด)

4.นายสุจินต์ ศิริอภัย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ (ตำแหน่งนิติกรระดับชำนาญการ กลุ่มเสริมสร้างวินัยและระบบคุณธรรม สำนักงานบริหารกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)

ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนมา เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

อนึ่ง ในการสอบสวนถ้าคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ามีพยานหลักฐานที่ควรกล่าวหาว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นด้วย หรือพาดพิงไปถึงข้าราชการพลเรือนผู้อื่นและเห็นว่ามีส่วนร่วมในการกระทำในเรื่องที่สอบสวนนี้ หรือผู้ถูกกล่าวหาหรือราชการอื่นมีมูลกระทำผิดทางอาญา หรือทางละเมิด ให้คณะกรรมการสอบสวนรายงานและเสนอความเห็นมาให้ทราบโดยเร็ว

สั่ง ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2557

นายประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมอประดิษฐตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง'ปลัดสธ.'

ปลัดสธ.โต้หนังสือสอบวินัยร้ายแรงไม่ถูกต้อง เชื่อหมอประดิษฐมืออาชีพ ไม่ทำเรื่องแบบนี้

ประชาคมสธ.แถลงจวกหมอประดิษฐใช้อำนาจกลั่นแกล้งขรก.