ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ภาคประชาสังคม จี้ คสช.ตรวจสอบ บอร์ดอภ. แม้ลาออกก็ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ จี้สำนึกปลัดสธ.อย่าลอยตัว ผอ.อภ.ควรพิจารณาตัวเอง แสดงความรับผิดชอบในการกระทำของตน ทำระบบยาของประเทศมีปัญหา หยุดผลิตยาเม็ดไอโอดีนหญิงตั้งครรภ์ ส่อเจตนาเอื้อบริษัทเอกชนที่มีอยู่รายเดียวที่ผลิตได้ วอนคืนความเป็นธรรมให้ หมอวิทิต ผอ.อภ.คนเก่า

10 ก.ค. นางสาวสุภัทรา นาคะผิว โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า หลังจากการเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคมด้านสุขภาพเปิดเผยพฤติการณ์ที่บ่อนทำลายระบบยาของประเทศไทย เป็นผลให้บอร์ดองค์การเภสัชกรรม(อภ.)ลาออก 10 คนมีผลวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 โดย 2 คน ที่เหลือซึ่งไม่ได้ลาออกเนื่องจากเป็นบอร์ด อภ. โดยตำแหน่ง ได้แก่ นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผอ.อภ. และนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นั้น ในประเด็นข้อกังขาของการบริหารงานของ ผอ.อภ.คนปัจจุบันและบอร์ดชุดนี้มีมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา อภ.ไม่สามารถดำเนินการตามพันธกิจขององค์การเภสัชกรรมได้ ข้ออ้างที่ว่าโรงงานมีปัญหาคุณภาพต้องปรับปรุงจนทำให้ยาสำคัญหลายตัวขาดแคลนไปทั่วประเทศเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น พันธกิจขององค์การเภสัชกรรมคือต้องผลิตและจัดหายาที่มีคุณภาพให้ประชาชน แต่กลับปล่อยให้ยาสำคัญหลายชนิดขาดสต็อก ทั้งยาเบาหวาน ความดัน ยาจิตเวช เอชไอวีและอื่นๆ แล้วผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องใช้ยาทุกวันจะทำอย่างไร

โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า แม้บอร์ดองค์การเภสัช 10 คนลาออก แต่ก็ไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบต่อความบกพร่องในการบริหารงานได้ คสช.ควรดำเนินการเพื่อการสร้างธรรมาภิบาลและความโปร่งใส โดยการ

(1) ตั้งกรรมการสอบประเด็นต่างๆที่มีการร้องเรียน

(2) ให้ นพ.สุวัช ผู้อำนวยการ อภ.พิจารณาตัวเอง เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงหลายประเด็น จะไม่แสดงความรับผิดชอบได้อย่างไร

(3) นพ.ณรงค์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นกรรมการ รับรู้ปัญหามาโดยตลอด โดยไม่ดำเนินการอย่างใด

และ (4) คืนความเป็นธรรมให้ นพ.วิฑิต อรรถเวชกุล อดีต ผอ.ที่ถูกให้ออกและเจ้าหน้าที่ที่ถูกใส่ความอย่างไม่เป็นธรรม

นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่าย้ำว่า เป็นหน้าที่อภ.ต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ยาขาดแคลน จี้ให้บอร์ดตอบคำถาม ทำไมปล่อยรพ.แก้ปัญหายาเบาหวานและความดันขาดแคลนเองแถมไม่ยอมแจ้งล่วงหน้า ยาจิตเวชต้องรอนานแค่ไหน ถึงจะมีใช้พอ เหตุใดหยุดผลิตยาเม็ดหญิงตั้งครรภ์ ส่อเจตนาให้ไปซื้อจากบริษัทเอกชนอื่นหรือไม่ ขาดส่งยาต้านไวรัสเอดส์ให้สปสช. 3 เดือน กระทบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศจะทำอย่างไร โรงงานผลิตวัคซีนที่รังสิตล่าช้ากว่าปี ทำไมไม่ขึ้นบัญชีทิ้งงาน แถมยังจะจ้างกลับเข้ามาใหม่อีก

ทางด้าน ภญ.ศิริพร จิตรประสิทธิศิริ ตัวแทนชมรมเภสัชชนบทกล่าวว่า ปัญหาการตัดจ่ายยาของ อภ.รุนแรงอย่างมากตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากการสำรวจ โรงพยาบาลชุมชน 7 แห่ง 3 จังหวัด มีแจ้งยกเลิกจำหน่ายยาหลายใบสั่งซื้อ 80 กว่ารายการ หากสำรวจทั่วประเทศมั่นใจว่าจะพบปัญหามากกว่านี้

“ขอยกตัวอย่าง ยาไตเฟอดีน ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับไอโอดีนและวิตามิน ก่อนหน้านี้ อภ.ขายให้ เม็ดละ 83 สตางค์ แต่แจ้งขาดสต๊อก 1 เดือนมาหลายครั้งจนแจ้งยกเลิกการผลิตในที่สุด ทั้งที่ในตลาดมีผู้ผลิตอีกรายเดียว ในราคาที่แพงกว่ามากคือ เม็ดละ 1.78 บาท ทำให้โรงพยาบาลต้องสูญเสียงบประมาณมากขึ้นในการดูแลประชาชน ทั้งที่นี่เป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเอง ปลัด สธ.อยู่ในบอร์ด เหตุใดจึงไม่เร่งรัดแก้ปัญหานี้ แต่ปล่อยให้ อภ.แจ้งยกเลิกการขายและการผลิต

ภญ.ศิริพร กล่าวต่อว่า ขอฝากถึงคสช.และซุปเปอร์บอร์ดต้องเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้องค์การเภสัชกรรมมีประสิทธิภาพ เป็นที่พึ่งด้านยาและสุขภาพของประเทศ และต้องประกาศว่าต่อแต่นี้จะสนับสนุนให้ องค์การเภสัชกรรมเป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่แสวงหากำไร ตัวชี้วัดจะไม่ใช่กำไรแต่ต้องเป็นการทำหน้าที่อันเป็นพันธกิจเพื่อสังคม เป็นกำลังสำคัญสร้างความมั่นคงในระบบยาของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนายาใหม่ทำให้ประชาชนเข้าถึงยาคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม

ด้าน นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวว่า ตนไม่ขอออกความเห็นกรณีบอร์ด อภ. ทั้ง 10 คนยื่นหนังสือลาออก ส่วนตนขอยืนยันว่าจะทำงานเพื่อ อภ. ต่อไป ซึ่งขณะนี้ก็เดินหน้าปรับปรุงภายใน อภ. หลายเรื่อง ทั้งโรงงานผลิตยาต้านไวรัสเอชไอวี โรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก จ.สระบุรี ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน