ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ก.สาธารณสุข ลุยปฏิรูปบุคลากร 6 พันคน สร้าง เครือข่ายส่งเสริมสุขภาพ พร้อม ขยายองค์ความรู้งานวิจัยชิ้นโบแดง พันชิ้น ต่อยอดดูแลมาตรฐานสุขภาพคนไทย

วานนี้ (14 ก.ย.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงแนวทางการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเบื้องต้นจะ เน้นเรื่องระบบการปฏิรูประบบสุขภาพ ด้านบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในสังกัดทุกระดับทุกสาขาอาชีพ โดยจะมีจัดการประชุมสัมมนาทางวิชาการสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคร่วมประชุม 6,000 คน เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุขนำองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ได้จากการ ศึกษา ค้นคว้า วิจัย เผยแพร่สู่ บุคลากร ร่วมแลกเปลี่ยน ความ คิดเห็น และประสบการณ์ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้นวัตกรรมที่ทันสมัย และเป็นประโยชน์ รวมทั้งสร้างเครือข่ายทางวิชาการ

"กระทรวงต้องการให้บุคลากรนำองค์ความรู้ไปใช้ในปรับเปลี่ยนแนวคิด และพฤติกรรมประชาชนในการส่งเสริมสุขภาพดี ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเอง ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานบริการการรักษาพยาบาลด้วย" ปลัดกระทรวงสาธารณสุขระบุ

อวดงานวิจัยโบแดงมากกว่าพันชิ้น

นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ผลงาน การประชุมวิชาการในปีนี้ มีบุคลากรส่ง ผลงานวิชาการเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 1,009 เรื่อง ซึ่งเป็นผลงานที่ผ่านคัดเลือก ผลงานวิชาการที่ดีที่สุดจากนักวิจัยระดับ มืออาชีพ เตรียมนำไปเผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ ให้บุคลากรนำไปประยุกต์ใช้ได้ในพื้นที่ อาทิเช่น เรื่องผลลัพธ์และต้นทุนของการใช้ยาคอลิสติน และไตกีไซคลีน หรือเรื่องการพัฒนารูปแบบการแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรอย่างมีส่วนร่วม หรือ ผลงานประเภทผลงานดีเด่น เช่น ผลการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง การให้ยากระตุ้นการรัดตัวของมดลูกหรือ ยาออกซิโตซิน เข้าทางหลอดเลือดดำกับ ฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อ หรือผลการศึกษาประสิทธิผลของการบรรเทาอาการ ปวดหลังส่วนล่างเรื้อรัง โดยใช้แคบไซซิน แอบไฮพลาสเปรียบเทียบกับเมทธิลซา ลิซาเลท พลาสเตอร์ รวมไปถึงผลการ ศึกษาเปรียบเทียบเทคนิคการฉีดยาชาใน ผู้สูงอายุที่มาผ่าตัดข้อสะโพกด้วยวิธีการ ฉีดเข้าทางช่องไขสันหลัง หรือผลการศึกษาการใช้กระบวนการจัดการความรู้ใน การพัฒนาระบบการดูแลทารกแรกเกิดที่มี ปัญหาลิ้นติด และได้รับบริการผ่าตัดเลาะพังผืดใต้ลิ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยให้ทารกดูดนมแม่ได้ดีขึ้น เป็นต้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน วันที่ 15 กันยายน 2557