ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.เดลินิวส์ วันที่ 15 ตุลาคม 2557 คอลัมน์ตีแสกหน้า ฝ่าสมรภูมิข่าว โดยสมิหลา เขียนคอลัมน์ในชื่อ “เรื่องฉาวจากอีสานใต้” เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในระบบสาธารณสุขดังนี้

วันนี้ (15 ต.ค.) หากไม่เกิดเหตุฟ้าถล่มดินทลายหรือเกิดอาเพศใด ๆ เชื่อแน่ว่า นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข จะประกาศต่อที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยเสียงดังฟังชัดว่า ขอลาออกจากตำแหน่ง อธิการบดี เพื่อไปทำหน้าที่ รมว.สาธารณสุข เพียงเก้าอี้เดียว

เป็นการจบปัญหาไปด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีของนักบริหารว่า ไม่ควรเปิดศึกหลายด้าน

เพราะด้วยภาระหน้าที่ของ รมว.สาธารณสุข ยังต้องเผชิญศึกอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูประบบสาธารณสุข การแก้ปัญหาการเงินการคลัง การกระจายอำนาจ หรือแม้แต่การรวบอำนาจของ องค์กรตระกูล ส. ทั้งหลายแหล่

ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ต้องอาศัยการร่วมมือร่วมใจของคนในกระทรวงหมอ โดยเฉพาะกับผู้ที่ประชาคมสาธารณสุขและสังคมไทยให้การยอมรับ นั่นคือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามปล่อยข่าวลือเรื่องการย้าย นพ.ณรงค์ ออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลของความไม่ลงรอยอันเนื่องมาจากทีมงานของ รัฐมนโท อยากจะดันเด็กตัวเองข้ามหัวผู้อื่น

รวมทั้งบารมีจากคนโตในทำเนียบรัฐบาลได้แผ่ซ่านผ่านเครือข่ายนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 50 และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ 20 มาถึงกระทรวงหมอ

ทว่า นพ.ณรงค์ ได้ยืนยันในจุดยืนและพร้อมจะยืดหยุ่นเพื่อให้งานปฏิรูปในห้วงเวลาอีก 1 ปีก่อนเกษียณเป็นรูปเป็นร่าง ดังจะเห็นได้ว่า ไม่มีการปรับย้ายในระนาบอธิบดีกรมต่าง ๆ

ส่วนตำแหน่งรองปลัดกระทรวงฯ และผู้ตรวจราชการฯ ที่ว่างลง ยังอาจต้องยืดเยื้อกันไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ว่าเรื่องจะลงเอยด้วยดีหรือบานปลายจนกระทั่งแตกหักเป็นเสี่ยง ๆ ยังไม่มีใครล่วงรู้ได้

จากปมขบเหลี่ยมเฉือนคมภายใน ทำให้มีข้อน่าสังเกตว่า การโยกย้ายตามฤดูกาลมักจะเริ่มจากหัวแล้วค่อยไล่ไปหาง แต่ในปีนี้ นพ.ณรงค์ เลือกจะกระชับหางก่อน โดยเฉพาะกับตำแหน่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป (รพศ./รพท.) รวม 42 ตำแหน่ง

หลายตำแหน่งเป็นการทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ บางรายเป็นการขยับเพื่อรอโอกาสก้าวหน้า ในขณะที่บางคนเป็นการย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อรอผลการตรวจสอบทุจริตที่มีบัญชีเป็นหางว่าว

ว่ากันว่า มีผู้บริหารใหญ่รายหนึ่งในพื้นที่จังหวัดอีสานใต้ ถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าตรวจสอบ 2 รอบ เมื่อปลายปี 56 จากนั้นทีมนิติกรกระทรวงสาธารณสุขชุดใหญ่ ได้ลงไปตรวจสอบพร้อมกับคณะผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ

ต่อมาเมื่อต้นปี 57 ป.ป.ช.จังหวัดได้เริ่มสอบสวน 2 ประเด็น คือ ร่ำรวยผิดปกติและทุจริตคอร์รัปชั่นหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องเรียนจากบุคลากรในหน่วยงานตัวเองอีกนับไม่ถ้วน

ทั้งๆ ที่มีคำสั่งย้ายออกมาแล้ว แต่ผู้บริหารใหญ่รายนี้ยังมีพฤติกรรมหมูไม่กลัวน้ำร้อน โดยพยายามจะฟาดงวงฟาดงา และบีบบังคับบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาให้ช่วยกันลงชื่อเพื่อสร้างภาพว่า ตัวเองเป็นที่ต้องการของจังหวัดนั้น ๆ

แถมยังจะต่อสายไปยังผู้มีอำนาจในบ้านเมือง สั่งการล้วงลูกให้มีการแก้ไขคำสั่งโยกย้ายดังกล่าว

แต่เป็นจุดยืนของ นพ.ณรงค์ ที่ยึดถือเรื่อง ธรรมาภิบาล เป็นเรื่องใหญ่ และชัดเจนมาตั้งแต่การชูธงไม่ทำงานกับรัฐบาลโกง

ถ้าหาก รมว.สาธารณสุข หรือแม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปล่อยให้มีการวิ่งเต้นแก้ไขหรือยื้อคำสั่งนี้เกิดขึ้น

ประเทศไทยก็คงจะหมดหวังกับการปฏิรูปและการปราบปรามคอร์รัปชั่น.!!!.

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 ตุลาคม 2557