ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เผยปัญหาการใช้แร่ใยหินในอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการพิจารณาของครม. เตรียมนำระบบการเฝ้าระวังสุขภาพผู้ทำงานสัมผัสแร่ใยหินทั้งเชิงรับและเชิงรุก ให้โรงพยาบาลในสังกัดฯเฝ้าระวังผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับแร่ใยหิน และลงทะเบียนเพื่อติดตามในระยะยาว โดยสัปดาห์หน้านี้จะเริ่มดำเนินงานเชิงรุก ตรวจสุขภาพร่างกาย เอกซเรย์ปอด ตรวจสภาพแวดล้อมการทำงานนำร่องดำเนินการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี ขณะนี้มีโรงงานอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง 16 แห่ง พนักงาน 1,300 คน

วันนี้ (19 ธันวาคม 2557) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังการรับมอบหนังสือจากตัวแทนกลุ่มต่อต้านการใช้แร่ใยหินในอุตสาหกรรม เพื่อให้รัฐบาลกำหนดข้อห้ามการใช้แร่ใยหินในอุตสาหกรรม ว่า เรื่องการใช้แร่ใยหินในอุตสาหกรรม ขณะนี้อยู่ในวาระการพิจารณาในระดับของคณะรัฐมนตรี โดยเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานที่ต้องร่วมกันพิจารณา ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพของผู้ที่ทำงานสัมผัสแร่ใยหินเพื่อประกอบการพิจารณาด้วยและในสัปดาห์หน้าจะมีการปรึกษากับทางกระทรวงอุตสาหกรรมถึงความคืบหน้าเรื่องนี้

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้สร้างระบบการเฝ้าระวังสุขภาพผู้ที่ทำงานสัมผัสแร่ใยหินหรือผู้ที่เคยทำงานในโรงงานที่ใช้แร่ใยหิน เนื่องจากแร่ใยหินจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในทันที ส่วนโรคที่เกิดในระยะยาวในช่วง 10-20 ปี ได้แก่ พังผืดในปอด มะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ้มปอด เป็นต้นและได้มีการพัฒนาบุคลากรทางการการแพทย์ให้สามารถวินิจฉัยโรคที่เกิดจากแร่ใยหินให้มีความแม่นยำมากขึ้น ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญ และขณะเดียวกันจะให้ความรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับอันตรายของแร่ใยหินแก่ให้ประชาชนและคนในชุมชนได้ทราบด้วย

ในส่วนของระบบการเฝ้าระวังผู้สุขภาพจะดำเนินการทั้งเชิงรับและเชิงรุกควบคู่กันไป โดยการเฝ้าระวังเชิงรับได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศเฝ้าระวังผู้ที่เริ่มมีอาการเข้าข่ายป่วยด้วยแร่ใยหิน เมื่อพบผู้ป่วยให้รายงานทันที พร้อมลงทะเบียนเพื่อติดตามในระยะยาว ไม่ให้หายไปจากระบบ โดยจะติดตามตรวจสุขภาพผู้ป่วยทุกปีทั้งผู้ป่วยใหม่และผู้ป่วยเก่าส่วนการเฝ้าระวังเชิงรุกจะเน้นการตรวจสุขภาพพนักงาน และ สภาพแวดล้อมของสถานประกอบการโดยเฝ้าระวังสถานประกอบการที่มีการใช้แร่ใยหินในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นระบบการเฝ้าระวังรูปแบบใหม่ ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมแล้วโดยจะเริ่มนำร่องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานีในสัปดาห์หน้านี้ 

ข้อมูลจาก สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค ขณะนี้ประเทศไทยมีสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงและอยู่ในการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุขจำนวน16 โรงงาน มีพนักงานประมาณ 1,300 คน โดยการเฝ้าระวังระบบสุขภาพของผู้ที่ทำงานสัมผัสกับแร่ใยหิน จะตรวจสุขภาพของพนักงานในสถานประกอบการทุกคน เอกซเรย์ปอด ตรวจการทำงานของปอด ตรวจสภาพแวดล้อมการทำงานในบริเวณสถานประกอบการ พร้อมปรับให้สภาพแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมลดอันตรายต่อสุขภาพผู้ทำงานสัมผัสแร่ใยหินและการขึ้นทะเบียนเพื่อติดตามอย่างต่อเนื่อง