ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.ประชาชาติธุรกิจ : โรงพยาบาลแพทย์รังสิตรีแบรนดิ้ง ครั้งใหญ่ ปรับภาพลักษณ์ทันสมัย เสริมแกร่งด้านการรักษาเฉพาะทาง เดินหน้าทำการตลาดสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง รองรับการขยายตัวของเมือง-การแข่งขันสูงจากรายใหม่ หวังรักษาส่วนแบ่งตลาดรังสิต-ปทุมธานี

นายชัยนันท์ แย้มสอาด กรรมการ บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด ผู้อำนวยการบริหารโรงพยาบาลแพทย์รังสิตกล่าวว่า หลังจากอยู่ในตลาดมา 29 ปี ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2558 มีแผนรีแบรนดิ้ง ครั้งใหญ่ใช้งบฯ 10-20 ล้านบาท อาทิ ปรับสถานที่ตกแต่งห้องผู้ป่วย เปลี่ยน โลโก้ที่ใช้ในสื่อต่าง ๆ ของทางโรงพยาบาลเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้มีภาพลักษณ์ ทันสมัยเพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง ความหนาแน่นของประชากรย่านรังสิต และการแข่งขันค่อนข้างสูงจากรายใหม่ ที่เข้ามา จึงต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ บวกกับพื้นที่ให้บริการค่อนข้างเต็มไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 2,000 คนต่อวัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตปทุมธานีเป็นสัดส่วนมากถึง 70%

รวมถึงโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิตที่เปิดข้าง ๆ กันมาเป็นเวลา 3 ปี มี 56 เตียงก็จะทยอยรีแบรนดิ้งเปลี่ยนชื่อเป็น Mother & Child Hospital เพื่อรองรับจำนวนคนไข้มากขึ้น ทั้งนี้ นอกจากการรีแบรนดิ้งบริษัทได้ซื้อที่ดินด้านข้าง โรงพยาบาลเพิ่มอีก 3 ไร่ เพื่อเตรียมลงทุนสร้างอาคารผู้ป่วยหลังใหม่ มีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นอีก 150-200 เตียง จากที่มีอยู่แล้ว 2 อาคาร มี 155 เตียง โดยอาคารหลังใหม่จะรองรับความต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเงินสดและขยายบริการรักษาเฉพาะทางให้มากขึ้น

ปัจจุบันโรงพยาบาลแพทย์รังสิตมีฐานลูกค้าส่วนใหญ่จากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม โดยมีผู้ประกันตนอยู่ 1.3 แสนคน คิดเป็นสัดส่วน 75% ลูกค้าเงินสดมีจำนวน 25% แต่สัดส่วนรายได้คิดเป็น 50 : 50 โดยต้องการเพิ่มจำนวนของกลุ่มลูกค้าเงินสดมากขึ้นเป็น 50 : 50

ด้านบริการจากเดิมที่เน้นการรักษาโรคทั่วไป จะเพิ่มน้ำหนักการรักษาเฉพาะทางมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดศูนย์หัวใจครบวงจร ซึ่งสามารถรับส่งต่อผู้ป่วยโรคหัวใจจากโรงพยาบาลชุมชนของจังหวัดปทุมธานีได้ด้วย และยังมีศูนย์ล้างไต ปัจจุบันมีเครื่องล้างไต 25 เตียงและไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยโรคไตที่มีจำนวนมากขึ้น ดังนั้น ในอนาคตจะเพิ่มเครื่องล้างไต ปีนี้ยังได้เปิดให้บริการแพทย์แผนทางเลือก เริ่มจากบริการฝังเข็ม กับแพทย์จีน และสนใจขยายการให้บริการด้านอื่น อาทิ สุขภาพและผิวพรรณ

ควบคู่กับการทำตลาดเต็มรูปแบบ ทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย จัดกิจกรรมต่าง ๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มผู้ใช้บริการรายใหม่ ๆ และสร้างการรับรู้แบรนด์โดยเริ่มจากกิจกรรมเพื่อสังคม เดิน-วิ่งการกุศล ซึ่งจะเป็นอีเวนต์ ประจำปีของโรงพยาบาล โดยแต่ละปี ตั้งเป้าเติบโต 10%

"การแข่งขันย่านนี้สูงขึ้น แต่ไม่น่าจะกระทบด้วยราคา การรักษา และอยู่ในตลาดมานานมีฐานลูกค้ากว้างและผูกพันกันจากรุ่นสู่รุ่น เป็นจุดแข็ง แต่เราพัฒนาตลอดเพราะถ้าเราไม่ปรับปรุงคนก็จะสวิตช์ไปที่อื่น การควบรวมกิจการก็มีคนเข้ามาคุยตลอด แต่เราเชื่อว่าระยะสั้นยังดูแลตัวเองได้ เราเป็นธุรกิจครอบครัว ค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟคงจะไม่ขยายสาขามาก เน้นสร้างธุรกิจที่มีอยู่ให้แข็งแกร่ง การ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯก็ศึกษาข้อดีข้อด้อย ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้ามีข้อดีและจังหวะเหมาะสม" นายชัยนันท์กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 9 - 11 มี.ค. 2558