ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมช.สธ.เยี่ยมให้กำลังใจคุณตาที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังสูญเสียคุณยายมา 10 เดือน และอยู่กับศพ พร้อมส่งทีมจิตแพทย์จากสถาบันกัลยาราชนครินทร์ และทีมหมอครอบครัวจาก รพ.สต.ท่ากระชับ ดูแลสุขภาพกายและจิตถึงบ้านเป็นพิเศษ ยันคุณตาไม่มีปัญหาสุขภาพจิต ขอให้เข้าใจข้อเท็จจริงและเคารพความเป็นส่วนตัวของคุณตา ที่อยู่ในวัยสูงอายุและไม่ต้องการสร้างภาระแก่สังคมรอบข้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

จากกรณีที่มีข่าวคุณตาวัย 76 ปี อยู่ที่ตำบลท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อยู่กับศพภรรยาวัย 83 ปี ที่เสียชีวิตในบ้านมาประมาณ10 เดือนนั้น

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม และทีมแพทย์จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม สถาบันกัลยาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจนายยม จู่ยืนยง อายุ 76 ปี ที่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 2 ต.ท่ากระขับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และได้มอบเครื่องยังชีพ พร้อมเงินจำนวนหนึ่งแก่คุณตา

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับคุณตา พบว่า มีกำลังใจดี พูดคุยรู้เรื่องดี มีความจำดี ไม่มีปัญหาสุขภาพจิตหรือโรคประสาทแต่อย่างใด การที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเยี่ยมวันนี้ และให้การช่วยเหลือจะมีผลให้คุณตามีสุขภาพจิตดีขึ้น มีกำลังใจดีขึ้น ขณะนี้ห่วงเพียงสุขภาพกาย เนื่องจากคุณตามีโรคประจำตัว คือ โรคความดันโลหิตสูง อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายทีมสุขภาพจิต จากสถาบันกัลยาราชนครินทร์ จ.นครปฐม ร่วมกับ ทีมหมอครอบครัวของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลท่ากระชับ มาเยี่ยมที่บ้านเป็นพิเศษ ให้การดูแลสภาพความเป็นอยู่ เพื่อคลายความกังวล ร่วมซับความทุกข์ที่อยู่ในจิตใจ และตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาคุณตามีอายุมากแล้ว และการเดินทางมีความยากลำบาก

สำหรับเรื่องศพนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บรรจุในโลงศพตามประเพณีแล้ว ได้รับความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาดูแลด้านสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านเรือนให้สะอาด เป็นระเบียบ ช่วยแบ่งเบาภาระคุณตาได้มาก และขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ศพไม่ใช่แหล่งแพร่เชื้อโรค มีข้อมูลยืนยันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้แนะนำให้คุณตาปล่อยวาง และประกอบพิธีศพตาประเพณีวัฒนธรรมทางศาสนาที่เหมาะสมต่อไป

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนเข้าใจข้อเท็จจริงและเคารพความเป็นส่วนตัวของคุณตา ซึ่งอยู่ในวัยสูงอายุ และไม่ต้องการสร้างภาระแก่สังคมรอบข้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับและคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้