ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.คมชัดลึก-เม็กซิโกประเดิมไฟเขียววัคซีนป้องกันไข้เลือดออกชนิดแรกของโลก หวังช่วยป้องกันการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศกว่า 100 รายต่อปี และอีกหลายล้านคนทั่วโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม ว่า เม็กซิโกเป็นประเทศแรกที่อนุมัติ "เดงวาเซีย" (Dengvaxia) วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกชนิดแรกของโลก ที่ผลิตโดยบริษัท ซาโนฟี ของฝรั่งเศส และกำลังขอการอนุมัติจำหน่ายใน 20 ประเทศเอเชียและละตินอเมริกา

นายโอลิเวียร์ ชาร์ไมล์ หัวหน้าแผนกวัคซีนของซาโนฟี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งราคาขาย แต่เชื่อว่าเดงวาเซีย จะเป็นเวชภัณฑ์ที่สร้างรายได้แก่บริษัทมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) ต่อปี พร้อมระบุด้วยว่า เดงวาเซียถือเป็นนวัตกรรมแห่งทศวรรษและนี่คือช่วงเวลาที่สำคัญมากในประวัติศาสตร์สาธารณสุข

ด้านนายมิเคล อาร์รีโอลา ประธานสภาวัคซีนแห่งชาติของเม็กซิโก กล่าวว่า สภาจะตัดสินใจว่าจะให้เดงวาเซียอยู่ในกลุ่มวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือไม่

ทั้งนี้ ทางการประเมินว่า วัคซีนจะช่วยป้องกันการล้มป่วยต้องนอนโรงพยาบาลเพราะไข้เลือดออก 8,000 คน และป้องกันการเสียชีวิตปีละ 104 ราย นายอาร์รีโอลา กล่าวว่า เม็กซิโกสามารถเดินหน้าได้ก่อนประเทศอื่นๆ เพราะเกี่ยวข้องกับการวิจัยวัคซีนที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2549

รายงานระบุว่า 20 ประเทศที่ซาโนฟี หวังจะได้รับอนุมัติให้วางจำหน่ายวัคซีนได้ในอนาคตอันใกล้นี้ มีประชากรรวมกันราว 2,000 ล้านคน บริษัทระบุว่า มีความพร้อมที่จะส่งออกวัคซีนหลายล้านชุด และคาดว่าการผลิตต่อปีจะเพิ่มแตะ 100 ล้านชุดภายในปี 2560

ยักษ์ใหญ่เวชภัณฑ์ฝรั่งเศสทุ่มงบกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อวิจัยและพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกมานาน 20 ปี แต่เมื่อผลิตออกมาวางจำหน่ายได้ นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะโกยรายได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เริ่มจากปี 2561 แต่ก็ขึ้นอยู่กับตลาด ประชากรกลุ่มเป้าหมาย และราคาที่เจรจาต่อรองด้วย

ยังมีบริษัทเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่กำลังพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกอยู่เช่นกัน ได้แก่ เมิร์ก บริษัทยาสหรัฐ ทาเคดะ ของญี่ปุ่น และแกล็กโซสมิทไคล์น ของอังกฤษ แต่ซาโนฟีออกนำไปก่อนและมีเวลาผูกขาดตลาดไม่ต่ำกว่า 4 ปี

ทั้งนี้ เชื้อไข้เลือดออกมี 4 สายพันธุ์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ใช้เวลานานกว่าจะพัฒนาวัคซีนตัวเดียวที่สามารถต่อสู้กับเชื้อทุกสายพันธุ์ องค์การอนามัยโลกระบุว่า แต่ละปีมีผู้ติดเชื้อไข้เลือดออกซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ 400 ล้านคน และสายพันธุ์อันตรายสุดของไข้เลือดออก คร่าชีวิตผู้ป่วย 2.2 หมื่นคนต่อปี โดยเด็กมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ

อดีตเคยเข้าใจว่าไข้เลือดออกเป็นโรคในเขตร้อน แพร่เฉพาะใน 9 ประเทศ แต่ในโลกยุคโลกาภิวัตน์การขยายตัวของเขตเมือง การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก และการเดินทางโดยเครื่องบิน เป็นสาเหตุให้ไข้เลือดออกแพร่ข้ามไปยังพื้นที่อื่นๆ ของโลก จนเวลานี้พบในกว่า 100 ประเทศ จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 30 เท่าในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา และประชากรกว่าครึ่งโลกมีความเสี่ยง

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 11 ธันวาคม 2558