ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.โพสต์ทูเดย์ – บำรุงราษฎร์-เครือ รพ.กรุงเทพ มีเฮ รัฐลดค่าวีซ่า ขยายเวลาให้พักในประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยวอายุ 55 ปีขึ้นไป จากเดิม 1 ปีเป็น 10 ปี จะส่งผลดีต่อกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มโรงแรม หนุนคนไข้ต่างประเทศโตขึ้นดันไตรมาส 4 กำไรดี

หลังจากรัฐออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับ 19 ประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2559-28 ก.พ. 2560 รวมถึงขยายเวลาให้พักในประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยวอายุ 55 ปีขึ้นไป จากเดิม 1 ปีเป็น 10 ปี จะส่งผลดีต่อกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มโรงแรม

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส วิเคราะห์ว่า มาตรการที่ออกมาจะเป็นผลดีต่อหุ้นโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศมาก ประกอบด้วย บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เพราะมีรายได้จากต่างชาติสูงสุด 64% ของรายได้รวม ที่เหลือเป็นคนไข้ในประเทศ รองลงมาคือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มีรายได้คนไข้ต่างชาติราว 30% ของรายได้รวม ที่เหลือ 70% เป็นคนไข้ในประเทศไทย และบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) มีรายได้จากต่างชาติ 5% ของรายได้รวม แต่การที่ได้เตรียม โรงพยาบาล World Medical Center รองรับนโยบายรัฐ น่าจะหนุนการเติบโตในระยะยาว แต่หากพิจารณาการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น พบว่า BCH มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากสุด 15% รองมาคือ BH 13% และ BDMS 11.4%

"9 เดือนแรกปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาประเทศไทยมากสุดคือจีน สัดส่วน 30% ของยอดนักท่องเที่ยวทั้งหมด รองลงมาคือ มาเลเซีย 10% เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ลาว อินเดีย 4% รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐ 3% เชื่อว่าเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับสิทธิเข้ามาไทย ซึ่งน่าจะดีต่อหุ้นโรงพยาบาล โดยเฉพาะที่เน้นคนไข้ต่างชาติ"

นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะส่งผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว-สุขภาพ เช่น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) โดย ERW คาดว่า ไตรมาส 4 ปีนี้จะ ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้น ท่องเที่ยว และหนุนกำไรโต 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่คาดจะมีกำไร 198 ล้านบาท

ที่มา: นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559