ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“วิษณุ” สั่ง สธ. - ก.พ.ตั้ง คกก.แก้ปัญหากำลังคนสุขภาพ แนะศึกษารูปแบบ รพ.บ้านแพ้ว ให้พยาบาล - แพทย์ออกนอกระบบ พร้อมหาแนวทางให้โรงพยาบาลเอกชนติดต่อขออัตรากำลังคน แล้วรัฐผลิตให้ โดยมีเงื่อนไขในการใช้ทุนแก้สมองไหล

เว็บไซต์แนวหน้ารายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาพยาบาลไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการว่า ขอขอบคุณกระทรวงสารณสุข (สธ.) ที่ยอมปรับเปลี่ยนแนวทางบางอย่างให้เป็นไปได้และเป็นแนวทางตามที่นายกฯ ได้สั่งการไว้คือการนำอัตราว่างที่รอบรรจุ ซึ่งมีอยู่ 2,200 อัตรา มาบรรจุให้หมดภายในปี 2560 ส่วนคำขอให้มีการบรรจุพยาบาลจำนวน 11,000 อัตรา เมื่อหักลบกับ 2,200 อัตราแล้วก็ต้องเอาที่เหลือมาแบ่งบรรจุเป็น 3 ปีตกปีละ 2,900 อัตรา

"ได้มีการเสนอแก้ไขปัญหาระยะยาว โดย สธ.และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะตั้งคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนด้านสาธารณสุข ซึ่งมีตัวแทนของมหาวิทยาลัย แพทย์ทหาร แพทย์ตำรวจเข้ามาร่วมด้วย โดยจะครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์ที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ, สธ. และกระทรวงกลาโหม เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาก็จะมาในลักษณะจิ๊กซอว์ทีละตัวอีก วันนี้เรามีคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ที่ดูอัตรากำลังภาครัฐทั้งหมดแล้ว แต่ไม่ได้รวมบุคลากรทางการแพทย์ เพราะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน รวมถึงต้องดูข้อเสนอที่ให้ สธ.จัดทำแผนอัตรากำลังคนด้วย"

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่นายกฯ ระบุว่าสถาบันของรัฐใช้งบประมาณรัฐผลิตพยาบาล ซึ่งพยาบาลเหล่านี้เมื่อจบการศึกษาส่วนใหญ่ไปอยู่โรงพยาบาลเอกชน กลายเป็นว่ารัฐทุ่มเงินผลิตพยาบาลเพื่อป้อนโรงพยาบาลเอกชน ก็ขอให้ลองนำไปคิดดูว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าให้โรงพยาบาลเอกชนติดต่อขออัตรากำลังคน แล้วรัฐผลิตให้ โดยมีเงื่อนไขในการใช้ทุน เพราะปัจจุบันเมื่อเราเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) โรงพยาบาลเอกชน ก็เปิดให้บริการมากขึ้นทำให้มีการดึงคนจากโรงพยาบาลรัฐไป เราเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น จึงทำให้ต้องมาวางแผนในส่วนนี้ โดยจะมีการประชุม คปร.และจะเสนอเรื่องนี้เข้า ครม. เพื่อให้มติต่อเติมจากวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีหน่วยงานที่พบปัญหานี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า พบว่ามีกระทรวงศึกษาธิการมีปัญหาใกล้เคียงในเรื่องอัตราว่าง ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เมื่อถามว่าจะมีการเจรจากับสถาบันการศึกษาให้มีการลดจำนวนการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ลงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เราต้องการให้เอามาพูดในคณะกรรมการชุดนี้ในเวลาที่ สธ.ไปทำแผนกำลังคนด้านสาธารณสุข

เมื่อถามว่า วันนี้บุคลากรทางการแพทย์มีจำนวนมากกว่าความต้องการหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่อยากบอกว่าเกินอัตรา เพราะสุดท้ายแล้ว ทุกคนมีงานทำ 100 เปอร์เซ็นต์ บางส่วนไปทำงานในโรงพยาบาลเอกชนซึ่งถือว่ามีงานทำ แต่ในแง่การบริหารจัดการเราต้องทำให้ดี และเราได้ให้การบ้านไปศึกษารูปแบบของโรงพยาบาลบ้านแพ้วว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้มีแพทย์หรือพยาบาลนอกระบบ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ลักษณะโรงพยาบาลบ้านแพ้วทั้งหมด แต่หมายถึงพยาบาล แพทย์ที่ไม่ใช่ข้าราชการ แต่มีสิทธิและสวัสดิการคล้ายคลึงกับข้าราชการ

เมื่อถามว่า จะมีการปรับค่าตอบแทนหรือสร้างแรงจูงใจใดๆ กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลรัฐเพื่อไม่ให้สมองไหลไปทำงานกับภาคเอกชนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรามีตุ๊กตาอยู่ในใจแล้ว และจะให้คณะกรรมการ คปร.ไปพิจารณากันต่อ เมื่อถามว่า แนวทางในการทยอยบรรจุพยาบาลเป็นข้าราชการนั้นเป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เรามีการพูดคุยกันอยู่ เพราะกลัวว่าจะมีการวิ่งเต้นกัน และเดี๋ยวจะมีปัญหาเลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่ง สธ.จะเป็นคนวางหลักเกณฑ์ที่ยุติธรรม โดยที่รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งในส่วนนี้

เมื่อถามว่า เมื่อมีการเพิ่มการบรรจุแล้ว จะรับประกันได้หรือไม่ว่าการให้บริการจะดีขึ้นกว่าเดิม นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราก็อยากเห็น แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาต่อรองกันในเวลานี้ เพราะถือเป็นหน้าที่ของ สธ.อยู่แล้วที่จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีคุณภาพ

ที่มา: http://www.naewna.com