ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เทศบาลนครอุดรธานี จับมือ สปสช. พร้อมเครือข่ายพื้นที่จัดโครการ “อนามัยโรงเรียน” ดูแลสุขภาพเด็ก ป.1-5 คัดกรองพร้อมแก้ภาวะบกพร่อง 4 ด้าน ทั้งสายตา โภชนาการ ขาดธาตุ และฟันผุ หนุนพัฒนาการที่ดี

นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ

นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าวว่า เทศบาลนครอุดรธานีให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรในพื้นที่ เน้นทุกช่วงกลุ่มวัยเริ่มตั้งแต่ในครรภ์มารดา ซึ่ง “เด็กในวัยเรียน” เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของการพัฒนา เพื่อให้เด็กๆ เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพ เทศบาลนครอุดรธานีจึงได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินโครงการสนับสนุนการเข้าถึงบริการอนามัยโรงเรียน ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยประสานเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สำนักการศึกษา และกองการแพทย์ เทศบาลนครอุดรธานี

ทั้งนี้เขตเทศบาลนครอุดรธานีมีโรงเรียนในเขตเทศบาลฯ จำนวน 35 แห่ง มีเด็กนักเรียนรวมทั้งหมด 8,452 คน ซึ่งการดำเนินงานโครงการสนับสนุนการเข้าถึงบริการอนามัยโรงเรียน ที่ผ่านมาไม่ได้จำกัดเฉพาะโรงเรียนภายในเขตบาลเท่านั้น แต่มีการดำเนินโครงการเหล่านี้ในโรงเรียนนอกสังกัดเขตเทศบาลนครอุดรธานีที่มีอยู่อีก 23 แห่ง โดยที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานโครงการอนามัยในวัยเรียนประมาณ 30 โครงการ จากจำนวน 126 โครงการภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นฯ เน้นการคัดกรองสุขภาพนักเรียน 4 ด้าน คือ

1.โครงการคัดกรองและแก้ไขปัญหาสายตาบกพร่อง เช่น ภาวะสายตาสั้น ตาขี้เกียจ เป็นต้น 2.โครงการป้องกันและควบคุมภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก 3.โครงการส่งเสริมและแก้ปัญหาภาวะโภชนาการ อาทิ โครงการเท่ห์กินผัก น่ารักกินผลไม้ เป็นต้น และ 4.โครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในเด็กนักเรียน ทั้งการตรวจฟันและการเคลือบหลุมร่องฟัน

“จากการดำเนินโครงการทั้ง 4 ด้านที่ผ่านมาในเด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1-5 จำนวน 2,024 คน ได้ปรากฎผลดีอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากทำให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ไม่เพียงได้รับการคัดกรองสุขภาพเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น โดยปัญหาสุขภาพที่ตรวจพบมากที่สุดคือ ฟันผุ ภาวะน้ำหนักเกิน และส่วนสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ซึ่งนอกจากทำให้เด็กเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว ยังนำมาสู่ความร่วมมือในการควบคุมและป้องกันปัญหาสุขภาพในเด็กวัยเรียน อย่างการสอนวิธีดูแลฟัน การแปรงฟันที่ถูกต้องเพื่อป้องกันฟันผุ การสอนให้เด็กรู้จักการเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ การจำกัดการจำหน่ายน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยวที่ก่อให้เกิดปัญหาโภชนาการในโรงเรียน เป็นต้น” นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าว

นายอิทธิพนธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและโรงเรียนแล้ว ยังมีการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองในการดูแลสุขภาพเด็กๆ เนื่องจากที่โรงเรียนเราจะดูแลเด็กๆ ได้เฉพาะในช่วงมื้อกลางวันและช่วงที่อยู่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ในส่วนของมื้อเช้าที่เป็นอาหารมื้อสำคัญของร่างกายและมื้อเย็น เด็กควรได้รับการดูแลต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในเด็กที่พบปัญหาทางด้านสุขภาพ จึงจำเป็นต้องดำเนินความร่วมมือ 3 ประสาน สำหรับโครงการสนับสนุนการเข้าถึงบริการอนามัยโรงเรียนนี้นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดี โดยเทศบาลนครอุดรธานีมีนโยบายดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกปี

“เด็กในช่วงวัยเรียน โดยเฉพาะชั้นประถมต้นนับเป็นช่วงสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาการที่ดี จำเป็นต้องได้รับการดูแลเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี มีความพร้อมด้านร่างกายเพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาการของเด็กๆ ในด้านต่างๆ เพื่อเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศต่อไป” นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าว

ส่วนกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ นายอิทธิพนธ์ กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นฯ ถือเป็นแนวคิดที่ดี เพราะเป็นการดึงท้องถิ่นและทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในทุกกลุ่มวัยได้ ซึ่งในส่วนงานอนามัยโรงเรียนที่ดูแลสุขภาพนักเรียนนั้น ที่ผ่านมาโรงเรียนส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายและงบประมาณเพื่อดำเนินงานในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะมุ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมการศึกษาเท่านั้น แต่จากกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ฯ โดยเทศบาลนครอุดรธานีที่ได้รวมสมทบทำให้เกิดการบูรณาการในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างส่งเสริมและดูแลสุขภาพเด็กนักเรียนในพื้นที่ได้